SET บ่ายลุ้นยืนเหนือ 1,450 จุดแนะหุ้นแบงก์-สื่อสาร-ก่อสร้าง

SET ฟื้นตัวต่อ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ยังมีปัจจัยลบอยู่มาก ปัจจัยภาคนอกที่ต้องจับตาปัญหากรีซ และคาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกด้วย ช่วงบ่ายเคลื่อนไหวคล้ายช่วงเช้า โดยเลือกหุ้นรายตัว กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,427-1471 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (23 ก.ค.) ฟื้นตัวต่อเนื่อง รับแรงหนุนจากหุ้นพลังงานที่ปรับตัวขึ้นหลังร่วงแรง แต่ในประเทศยังมีปัจจัยลบอยู่มากทั้งเรื่องการปรับลด GDP, ภัยแล้ง, การปรับลดประมาณกำไรของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการแก้ไขปัญหาของ ICAO ด้านตลาดหุ้นภูมิเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ขณะที่ปัจจัยภายนอกต้องติดตามปัญหากรีซ และคาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกด้วย

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย เคลื่อนไหวคล้ายช่วงเช้าทั้งในแดนบวกและลบไม่มาก โดยเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว และเก็บหุ้นที่ราคาได้ปรับตัวลงไปมากก่อนหน้านี้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,427-1471 จุด

 

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยืนในแดนบวกได้ทั้งที่มีปัจจัยลบอยู่มาก คาดว่าเป็นผลจากที่นักลงทุนเห็นว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวลงไปมากแล้ว จึงได้มีการทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตบ้าง อย่างหุ้น BBL ที่มีแรงซื้อเก็บ และผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่ออกมามี 2-3 แบงก์ที่งบฯออกมาดี ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นแบงก์

ทั้งนี้ มองตลาดหุ้นไทยคงเคลื่อนไหวในลักษณะแบบนี้ อิงขาลงมากกว่า เพราะปัจจัยในประเทศยังเป็นลบอยู่มาก ทั้งเรื่องการปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทย, ภัยแล้ง, การปรับลดประมาณการกำไรของบจ. รวมถึงเรื่องขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่ยังไม่จบ เพียงแต่ราคาหุ้นหลายตัวปรับลดลงไปมากแล้ว จึงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง แต่ยังต้องเผชิญกับแรงขายด้วยเหมือนกัน

สำหรับข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไม่คิดว่าจะมีผลต่อหุ้น ถ้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง โดยนักลงทุนยังจับตาดูทีมเศรษฐกิจซึ่งเป็นแค่ Sentiment ที่ไม่ได้มีผลต่อหุ้น

ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยเรื่องของกรีซ นักลงทุนยังติดตามดูอยู่เพราะในวันที่ 20 ส.ค. นี้ กรีซต้องจ่ายหนี้ให้กับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่วนเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว เนื่องจากล่าสุดเศรษฐกิจสหรัฐค่อนข้างดี ขณะที่นักลงทุนจะสนใจผลประกอบการของบริษัทในแต่ละตลาดกัน

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดว่าตลาดคงเคลื่อนไหวคล้ายช่วงเช้าทั้งในแดนบวกและลบไม่มาก โดยคงจะมีการเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว ซึ่งอาจมีการเก็บหุ้นที่ราคาได้ปรับตัวลงไปมาก พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,427-1471 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) SET ฟื้นตัวเด่นตั้งแต่เปิดตลาด นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT-PTTEP รวมไปถึงได้แรงซื้อกลับ AOT เข้ามาหนุน ทั้งนี้ถ้าพิจารณาในเชิงเทคนิค จะเห็น Momentum การฟื้นตัวก็ต่อเมื่อ SET สามารถยืนได้เหนือ 1,450 จุดได้ในวันนี้ โดยจะมีเป้าหมายฟื้นตัวระยะสั้นไปที่ 1,456-60 จุด

ขณะที่ กลยุทธ์หลักแนะนำกลุ่มสื่อสาร อย่าง INTUCH-ADVANC-TRUEIF และรับเหมา CK-STEC-SEAFCO ต่อไป รวมไปถึงซื้อ KTB หลังผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 ดีกว่าคาดการณ์ที่ 8.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนพร้อม Valuation ในเชิง PE และ PBV ต่ำกว่าธนาคารอื่นในกลุ่ม และ Dividend Yield 5-5.4% ในปี 58-59 ทางเทคนิคระยะสั้นต้าน 18.00 บาท

ขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” EA หลังราคาหุ้นปรับลดลงเป็นโอกาสซื้อหุ้นที่กำไรเติบโตกว่า 90% ในปี 58-59 ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 216MW (ได้ PPA แล้ว) ในปี 59 จากปัจจุบัน 180MW ในราคา Discount จากพื้นฐานที่ 30 บาท (เทคนิค 21.5/22.0)

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,424.70 ล้านบาท ปิดที่ 321.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 659.72 ล้านบาท ปิดที่ 5.15 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

AOT มูลค่าการซื้อขาย 585.30 ล้านบาท ปิดที่ 297.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 577.19 ล้านบาท ปิดที่ 182.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 543.85 ล้านบาท ปิดที่ 2.46 บาท ลดลง 0.02 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button