ราคาน้ำมันปรับลงต่อฉุด SET บ่ายแกว่งแคบจับตาทีมครม.ชุดใหม่ออกนโยบายกระตุ้นศก.

SET ช่วงเช้าปรับลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค หลังราคาน้ำมันยังกดดัน และมีความกังวลต่อเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว แต่บ้านเรารับผลดีปรับทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ คาดช่วงบ่ายตลาดหุ้นไทยแกว่งแคบ โดยมีแนวรับ 1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (20 ส.ค.) ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง และเกิดความกังวลต่อเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกอยู่บ้างจากการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ คาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยแกว่งแคบ โดยมีแนวรับ 1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อ GLOBAL-HMPRO-CPALL และ NYT

 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และกังวลเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว

ส่วนตลาดบ้านเรายังได้รับอานิสงค์จากการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ทำให้คนคาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา อย่างไรตามนักลงทุนยังรอฟังนโยบายอยู่

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดหุ้นไทยแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ส.ค.) SET ปรับลดลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT-PTTEP-PTTCH ที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ทำจุดต่ำสุดใหม่รอบ 7 เดือน ทั้งนี้คาด SET เคลื่อนไหว “ผันผวน” ต่อเนื่องในกรอบ 1,350-1,360 จุด

ขณะที่ แนะนำ“ซื้อ” NYT ด้วยราคาเป้าหมายพื้นฐาน 18.0 บาท จาก 1) การขยายอุตสาหกรรมส่งออกรถยนต์ ที่ NYT มีการเติบโตมั่นคง ประมาณ 6% ต่อปี หนุนกำไรเติบโต 13-9% ในปี 58-59 2) นอกจากรายได้จากค่าให้บริการส่งออกรถยนต์แล้วยังมีรายได้จากการให้เช่าคลังสินค้าที่เพิ่ม 3) ภายในปี 60 จะมีกำไรจากการถือหุ้น LRT ที่เป็นผู้ให้บริการท่าเรืออีกท่า เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 20% เป็น 49% และ 4) ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ด้วยสัดส่วนเงินสดสุทธิ พร้อมปันผล 4-5% ต่อปี ขณะทีทางเทคนิคมีสัญญาณ Breakout ด้วยเป้าหมายระยะสั้น 16.2/16.4/17.10 บาท

ส่วนการปรับ ครม. โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจจะเป็นประเด็นในการ “เก็งกำไร” หุ้นกลุ่ม Consumption Plays จากความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งแนะนำ “ซื้อ” GLOBAL (ต้าน 9.50 บาท ทะลุได้แนวต้านถัดไป 10 บาท) HMPRO (ต้าน 6.50 บาท ทะลุได้จะเป็นการเปลี่ยนแนวโน้มรอบใหญ่ มีเป้าหมายถัดไปที่ 6.9/7.3 บาท และ CPALL (“รอซื้อ” ที่ Gap ทางเทคนิค และแนวรับระยะกลาง บริเวณ 47.25 บาท)

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT มูลค่าการซื้อขาย 5,197.54 ล้านบาท ปิดที่ 260.00 บาท ลดลง 13.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,532.80 ล้านบาท ปิดที่ 267.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,002.36 ล้านบาท ปิดที่ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 713.55 ล้านบาท ปิดที่ 17.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 648.95 ล้านบาท ปิดที่ 171.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button