SET ฟาดเรียบ แดงยกแผง!บ่ายซบเซา แนวรับ 1,310 จุด

SET ภาคเช้าร่วงหนัก โดยเป็นการปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังตลาดกังวลศก.ของจีนที่ชะลอตัว ช่วงบ่ายคาดยังคงซบเซาต่อ ให้แนวรับ 1,310 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (24 ส.ค.) ปรับลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ทุกกลุ่ม และยังไม่มีจังหวะ Rebound เนื่องจากกังวลในเรื่องเศรษฐกิจโลกอันเป็นผลจากเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่ายตลาดยังคงซบเซาต่อ แต่อาจมีการรีบาวน์กลับได้เล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,310 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด       

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลงแรง เนื่องจากกังวลในเรื่องเศรษฐกิจโลกอันเป็นผลจากเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตามตลาดในกลุ่ม TIP นั้นจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงน้อยที่สุดประมาณ 3% 

โดยตลาดบ้านเราได้เจอแรงขายออกมาในช่วงก่อนหน้านี้มากแล้ว ซึ่ง Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกไปอันเนื่องมาจากความกังวลเศรษฐกิจโลก ทำให้ effect ต่อตลาดบ้านเราน้อยกว่าตลาดอื่น

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดตลาดยังคงจะซบเซาต่อ แต่อาจได้เห็นการรีบาวน์กลับได้บ้างในลักษณะของลดช่วงลบ พร้อมให้แนวรับ 1,310 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด       

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ส.ค.) ว่าการปรับลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก กดดัน SET ปรับลดลงแรงตั้งแต่เปิดตลาด นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ทุกกลุ่ม และยังไม่มีจังหวะ Rebound อย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ในทางกลยุทธ์การเข้าเก็งกำไรเพื่อคาดหวังการ Rebound ควรใช้วงเงินจำกัด และควร “Wait & See” จำกัดพอร์ตไปก่อน

โดย Dow Jones หลุดแนวรับระยะ 1 ปี เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 55 ความกังวลต่อการชะลอตัวเศรษฐกิจจีน, สงครามค่าเงิน, สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ และผลกระทบจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ กดดันตลาดหุ้นโลกปรับลดลงประมาณ 5% +/- และ SET ตั้งแต่เปิดตลาด ขณะที่ถ้าพิจารณาในทางเทคนิคตลาดหุ้น Dow Jones ปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับระยะ 1 ปี (52 สัปดาห์) เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 55 ซึ่งจะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 200 สัปดาห์ (4 ปี) ที่ 15,200-15,300 จุด หรือมี Downside อีกประมาณ 7.6% จากปัจจุบัน

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT        มูลค่าการซื้อขาย 2,922.64 ล้านบาท ปิดที่   250.00 บาท ลดลง 15.00 บาท

SCC       มูลค่าการซื้อขาย 1,452.50 ล้านบาท ปิดที่   480.00 บาท ลดลง 28.00 บาท

KBANK   มูลค่าการซื้อขาย 1,292.76 ล้านบาท ปิดที่   166.50 บาท ลดลง  6.00 บาท

JAS        มูลค่าการซื้อขาย 1,224.60 ล้านบาท ปิดที่     5.10 บาท ลดลง  0.10 บาท

AOT       มูลค่าการซื้อขาย 1,114.54 ล้านบาท ปิดที่   259.00 บาท ลดลง  6.00 บาท 

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

Back to top button