เก็บ 9 หุ้น SET บ่ายแกว่งไซด์เวย์รอมาตรการกระตุ้นศก.-ประมูล 4G

SET ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ทั้งในแดนลบ คาดกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย และการเดินหน้าประมูล 4G บ่ายคาดดัชนีฯแกว่งไซต์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,360 แนวต้าน 1,375 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (25 ส.ค.) ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ทั้งในแดนลบ คาดยังกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดอยู่ แต่ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย และการเดินหน้าประมูล 4G

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยแกว่งไซต์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,360 แนวต้าน 1,375 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อ STEC-CK-SEAFCO-KTB-CPALL-HMPRO-GLOBAL-KTC และ QH

 

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น คาดรับผลจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย หลังรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เตรียมนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกสำหรับหุ้นกลุ่มสื่อสาร หลังจากล่าสุดมี 5 บริษัทไปรับเอกสารการประมูล 4G แล้ว อย่างไรตามเมื่อดัชนีขึ้นมาแล้วแต่ยังไม่ผ่าน 1,380 จุด ก็ทำให้ดัชนีฯย่อตัวลงไปบ้าง

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ โดยนักลงทุนกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อยู่ ซึ่งให้ติดตามในวันที่ 3 ก.ย.นี้ที่จะมีรายงานเฟดสรุปภาวะเศรษฐกิจออกมา ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ส่วนแนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีฯจะแกว่งไซต์เวย์ พร้อมให้แนวรับ 1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,375 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (31 ส.ค.) SET ผันผวน หลังทดสอบแนวต้าน 1,380 จุด ปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่ความกังวลต่อการกลับมาผลิตน้ำมันของอิหร่านเป็น 1 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในระยะเวลา 3 เดือนข้างหน้านี้ เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันเช้านี้ และหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTTEP-PTT ทั้งนี้ แนะนำ “Selective” ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การประชุม ครม.วันที่ 1 ก.ย.นี้ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น จึง แนะนำ “ซื้อ” หุ้นที่เกี่ยวกับการอุปโภค (Consumption Plays) และ โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Plays) ต่อเนื่อง อย่าง:

1. กลุ่มรับเหมาฯ: STEC (ทะลุ 25.75 มีแนวต้านถัดไปที่ 27.75 บาท) CK-SEAFCO รวมไปถึง KTB ที่ได้รับผลบวกทางอ้อม

2. กลุ่มค้าปลีก: CPALL (เป้าหมายระยะสัปดาห์ 50.75 บาท) HMPRO-GLOBAL รวมไปถึง KTC ที่มี Valuation ถูก, Balance Sheet แข็งแรง, ปันผลประมาณ 4% ต่อปี

3. แม้ธุรกิจอสังหาฯ ยังไม่ดีนัก แต่มีลุ้นรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้น ขณะที่ NAV ที่ 2.51 บาท สูงกว่าราคาปัจจุบันอยู่ประมาณ 6% ทำให้การเข้าซื้อ QH ที่ราคาปัจจุบัน เหมือนกับได้ธุรกิจอสังหาฯ แบบไม่มีต้นทุน

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT มูลค่าการซื้อขาย 953.38 ล้านบาท ปิดที่ 267.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 756.06 ล้านบาท ปิดที่ 274.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

IFEC มูลค่าการซื้อขาย 734.25 ล้านบาท ปิดที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 614.88 ล้านบาท ปิดที่ 236.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 588.13 ล้านบาท ปิดที่ 5.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button