ต่างชาติยังมีแรงขาย-จับตาศก.จีนต่อเงินบาทอ่อนค่าฉุด SET บ่ายไซด์เวย์

SET ปรับตัวลงแนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ติดลบ หลังตัวเลขนำเข้า-ส่งออกงวดส.ค.ของจีนออกมาไม่ดี นอกจากนี้เงินบาทอ่อนค่ามาก รวมไปถึงปัจจัยในประเทศทั้งเศรษฐกิจ-การเมืองที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร และยังต้องเจอ Flow ไหลออกจากตลาดอาเซียนด้วย คาดบ่ายดัชนีฯแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,350-1,375 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (8 ก.ย.) ปรับตัวลงแนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ติดลบ หลังตัวเลขนำเข้า-ส่งออกงวดส.ค.ของจีนออกมาไม่ดี หวั่นกระทบภาคส่งออกของไทย-ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไปด้วย นอกจากนี้เงินบาทอ่อนค่ามาก รวมไปถึงปัจจัยในประเทศทั้งเศรษฐกิจ-การเมืองที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร และยังต้องเจอ Flow ไหลออกจากตลาดอาเซียนด้วย

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่ายคงแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,350-1,375 จุด ขณะที่ แนะนำสะสม STEC-CK-SEAFCO-KTC-CPALL และ KCE ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มหุ้นหลักที่แนะนำ “ซื้อ” ช่วงนี้

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ติดลบ ภายหลังจากที่ตัวเลขนำเข้าและส่งออกของจีนงวดเดือนส.ค.ออกมาไม่ดี โดยตัวเลขนำเข้าออกมาหดตัว 13.8% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดหดตัว 7.9% ขณะที่ตัวเลขส่งออกหดตัว 5.5% ซึ่งยังไม่ดีขึ้น ทำให้อาจกระทบภาคการส่งออกของไทยไปด้วย และยังกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์

นอกจากนี้ เงินบาทอ่อนค่ามาก ล่าสุดอ่อนค่าทำสถิติใหม่นับตั้งแต่มี.ค.52 และปัจจัยนโยบายที่แบงก์ชาติกระตุ้นให้คนนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศไม่เป็นผลดีต่อเงินบาท ทั้งนี้ ปัจจัยในประเทศยังไม่ดีเท่าไร ทั้งเศรษฐกิจ และการเมือง รวมทั้งตลาดอาเซียนทั้ง ไทย, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เจอ Flow ไหลออก ดังนั้นตลาดบ้านเราเจอแรงกดดันทั้งจากใน-นอกประเทศ

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดแกว่งไซต์เวย์ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,350-1,375 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ย.) แรงขายหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT-ADVANC-PTTEP และ SCC กดดัน SET ปรับลดลงมาที่แนวรับ 1,355-1,360 จุด คาดว่ามาจากแรงขายนักลงทุนต่างชาติหลัง การเลือกตั้งเลื่อนออกไปเป็นกลางปี 60 และค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาที่ 36.2 บาท/ดอลลาร์ฯ 

อย่างไรก็ตามกลุ่มหุ้นที่ คาดว่าจะได้รับผลดีจากการลงทุนภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นบริโภคเพิ่มเติม รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากค่าเงินบาทอ่อนค่าลง อย่าง STEC-CK-SEAFCO-KTC-CPALL และ KCE ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มหุ้นหลักที่แนะนำ “ซื้อ” ช่วงนี้

ขณะที่ บ่ายวันนี้จะมีการนำเสนอมาตรการช่วยเหลือ SMEs เพิ่มเติมอีก 1 แสนล้านบาท กับที่ประชุม ครม.

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

AJD มูลค่าการซื้อขาย 2,200.57 ล้านบาท ปิดที่ 1.71 บาท ลดลง 0.02 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,277.90 ล้านบาท ปิดที่ 5.60 บาท ลดลง 0.10 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 992.42 ล้านบาท ปิดที่ 256.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 470.20 ล้านบาท ปิดที่ 236.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 348.07 ล้านบาท ปิดที่ 490.00 บาท ลดลง 10.00 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button