SET เปิดพุ่ง 10 จุด รับแรงซื้อหุ้นงบแจ่ม โบรกแนะติดตามประชุม “โอเปกพลัส” 4 มี.ค.นี้

SET เปิดพุ่ง 10 จุด รับแรงซื้อหุ้นงบแจ่ม โบรกแนะติดตามประชุม “โอเปกพลัส” 4 มี.ค.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 1,513.01 จุด บวก 9.65 จุด หรือ 0.64% สูงสุดที่ 1,514.48 จุด ต่ำสุดที่ 1,510.07 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.04 พันล้านบาท

ด้าน บล.กรุงศรี คาด SET แกว่งตัว 1,495 – 1,515 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากมาตรการเยียวยา Covid-19 วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจากคาดการณ์กลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตใน การประชุมวันที่ 4 มี.ค. รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเตือนฟองสบู่ตลาดเงินทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐและยุโรปจะกดดันดัชนี

ขณะที่ บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,490 1,500 แนวต้าน 1,510 1,515 ยังขาดแรงหนุนจาก Fund Flow จากการปรับพอร์ตการลงทุนในดัชนีต่างประเทศ และรอประเมินเงินเฟ้อ แนะนำซื้อเก็งกำไร CRC, AWC, CPALL, TACC ได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเศรษฐกิจ

ส่วน บล.คันทรี่ กรุ๊ปประเมิน SET INDEX กลับมาแกว่งในกรอบ 1495  1507 บรรยากาศการลงทุนไม่มีปัจจัยหนุนเด่นชัดทั้งในทางบวกและทางลบ ขณะเดียวกันนักลงทุนรอติดตามการประชุม Opec+ ในวันที่ 4 มี.ค. โดยตลาดคาดการณ์ไว้ว่าที่ประชุมจะเพิ่มกำลังการผลิตราว 1.3  1.5 ล้านบาร์เรล / วัน เนื่องจากอุปสงค์รวมเริ่มกลับมา

ดังนั้นตลาดน้ำมันมีโอกาสที่จะเริ่มเห็นการพักตัวแกว่งในกรอบ อนึ่งสิ่งที่เป็นข้อสังเกตวานนี้คือหุ้นกลาง – เล็ก เริ่มกลับมา Outperform อาทิ (COM7 PTG DOHOME RCL SYNEX) ล้วนแต่เป็นหุ้นที่กำไรไตรมาส 4/63 ออกมาดี หรือ เติบโตดีทั้งจากไตรมาสก่อน และปีก่อน บ่งชี้ว่าตลาดขาดปัจจัยหนุนทำให้หุ้นขนาดใหญ่นิ่งเม็ดเงินจึงวกกลับมาหาหุ้นขนาดกลาง – เล็ก ที่มีปัจจัยหนุน

ทั้งนี้ลองสำรวจข้อมูลว่ามีหุ้นกลาง – เล็ก ตัวไหนอีกบ้างที่กำไรออกมาเติบโตดีจากปีก่อน และตลาดยังไม่ได้ใส่เม็ดเงินเข้ามา (BCH CHG JMT KCE MEGA NER PRM) มองเป็นชุดหุ้นที่น่าสนใจในระยะสั้นระหว่างรอปัจจัยใหม่ๆ

เชิงกลยุทธ์การลงทุน ตลาดดูขาดปัจจัยหนุน และปัจจัยในอนาคตที่จะพลักดันให้เดินหน้าต่อก็ดูเหมือนจะไม่มี ทำให้กลับมาเน้นหุ้นกลาง – เล็ก ที่กำไรออกมาดีและแนวโน้มดีต่อ (COM7 PTG DOHOME RCL SYNEX) รวมถึง Laggard (BCH CHG JMT KCE MEGA NER PRM) พร้อมแนะยังคงหาจังหวะถือครองเงินสดมากขึ้น

Back to top button