ราคาทองเช้านี้ ปรับลงบาทละ 350 หลังดอลลาร์แข็งค่า! รูปพรรณ ขายออกบาทละ 2.81 หมื่นบ.

ราคาทองในประเทศเช้านี้ ปรับลงบาทละ 350 หลังดอลลาร์แข็งค่า! รูปพรรณ ขายออกบาทละ 2,8100 บาท พร้อมมีคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ว่า ดัชนีราคาทองคำอยู่ในช่วงการพักฐาน แนวต้านบริเวณ 1,875-1,884 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนวรับบริเวณ 1,859-1,845 ดอลลาร์ต่อออนซ์


สมาคมค้าทองคำ รายงานว่าวันนี้ (4 มิ.ย.64) ราคาทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศปรับตัวลดลงบาทละ 350 โดยเมื่อเวลา 09.25 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 27,500.00 บาท ขายออกบาททองคำละ 27,600.00 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 26,999.96 บาท ขายออกบาททองคำละ 28,100.00 บาท

ทั้งนี้บทวิเคราะห์จากบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ ปิดดิ่งลง 36.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือเกือบ -2% โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันอย่างหนัก หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด เริ่มตั้งแต่ ADP เผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 978,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. 2564, ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกก็ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 385,000 รายในรอบสัปดาห์, ดัชนีภาคบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 64 ในเดือนพ.ค. 2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

“ตัวเลขดังกล่าว สะท้อนความแข็งแกร่งของภาคการบริการและตลาดแรงงาน จนกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัยพ์ตามมาตรการ QE (QE Tapering) ในไม่ช้านี้ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น 0.65% แตะที่ 90.491 และหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.626%” บทวิเคราะห์ระบุ

อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงกว่า 40 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,909.53 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,865.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมปรับตัวลงต่อในช่วงเช้า

“สำหรับวันนี้ จับตาการเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ซึ่งหากตัวเลขออกมาดีกว่าคาดหรือแย่กว่าคาด จะสร้างความผันผวนให้ราคาทองคำในคืนนี้ได้” บทวิเคราะห์ระบุ

พร้อมมีคำแนะนำว่า ราคาอยู่ในช่วงการพักฐาน โดยเน้นการซื้อขายทำกำไรระยะสั้น หากราคาไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้านบริเวณ 1,875-1,884 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับลงต่อเพื่อทดสอบแนวรับบริเวณ 1,859-1,845 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Back to top button