SET บ่ายแกว่งแคบ-เน้นลงทุนรายกลุ่มพร้อมเกาะติดกนง.บ่ายนี้ คาดคงดอกเบี้ย

โบรกฯคาดแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้ (3 ก.พ.) คาดดัชนีจะแกว่งตัวแคบ โดยมีแนวรับ 1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,290 จุด โดยเน้นลงทุนกลุ่มโรงพยาบาล,โรงแรม และกลุ่ม Micro Finance ที่คาดว่างบฯออกมาดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (3 ก.พ.) อ่อนตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ปรับตัวลง เนื่องจากมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับฐานลงมาอีกครั้ง ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลง แนะติดตาม กนง.บ่ายนี้ คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5% เช่นเดิม

ส่วนแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้คาดดัชนีจะแกว่งตัวแคบ โดยมีแนวรับ 1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,290 จุด โดยเน้นลงทุนกลุ่มโรงพยาบาล,โรงแรม และกลุ่ม Micro Finance ที่คาดว่างบฯออกมาดี

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ปรับตัวลงกัน เนื่องจากมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับฐานลงมาอีกครั้ง ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลง

นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มแบงก์ก็ปรับตัวลงหลังมีประเด็นความเสี่ยงจากการไปค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล และสื่อสารบางบริษัท อย่างไรก็ดี ให้ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ช่วงบ่ายนี้ แต่ไม่น่า Surprise จากตลาดฯคาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% เช่นเดิม

สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯจะประกาศออกมาในคืนวันศุกร์นี้ น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในประเด็นการปรับอัตราดอกเบี้ย

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้คาดดัชนีจะแกว่งตัวแคบ โดยมีแนวรับ 1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,290 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 3 ก.พ.) ว่า SET ปรับลดลงแรงตั้งแต่เปิดตลาด ตามการปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones และราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดีแนวรับที่ 1,274 จุด อิงเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน ยังทำงานได้ดี และเริ่มมีการ Rebound ตามมา โดยมองการ “พักฐาน” ของ SET อยู่ในรูปแบบ Sector Rotation มายังกลุ่มหุ้น 2nd-Tier อย่างกลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรม และกลุ่ม Micro Finance ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้

โดยคาดการ “พักฐาน” ของ SET อยู่ในรูปแบบ Sector Rotation ไปยังกลุ่มโรงพยาบาล โรงแรม และ Micro Finance ดังนี้:

กลุ่มโรงพยาบาล: “ซื้อ” CHG (ต้าน 2.66/2.80) ผลการดำเนินงานเติบโตเด่น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ เทียบไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส 4/58 และเติบโตเด่น 26% ปี 59 จากการขยายโรงพยาบาลต่อเนื่อง และ “ซื้อ” BH (ต้าน 237/250) คาดการณ์กำไรเติบโตดี เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนราคาหุ้นฟื้นตัวยกฐาน

กลุ่มโรงแรม: ราคา CENTEL (ต้าน 41.25) MINT (ต้าน 34.25/36.5) พักฐาน 8-11% ในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ใกล้แนวรับทางเทคนิคแล้ว ขณะที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/58-ไตรมาส 1/59 ออกมาดี เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจโรงแรม ขณะที่ MINT มีกำไรจากการขาย Villa ที่ภูเก็ตด้วย

กลุ่ม Micro Finance: “ซื้อ” SAWAD MTLS คาดการณ์กำไรเติบโตแกร่ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการเติบโตสินเชื่อ, NIM ขยายตัว, ขณะที่ NPL ยังไม่ใช่ปัญหา รวมไปถึง “ซื้อ” GL การขยายธุรกิจในกัมพูชา เป็นปัจจัยหนุน Growth ต่อเนื่องในปี 59-60

สำหรับประเด็นการประชุม กนง.วันนี้ คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.50% จากเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวต่ำ แรงกดดันเงินเฟ้อน้อย เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Micro Finance ต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ” SAWAD MTLS และ GL ที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 จะออกมาดีด้วย

 

สรุป 5 หลักหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,467.82 ล้านบาท ปิดที่ 223.00 บาท ลดลง 9.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,234.96 ล้านบาท ปิดที่ 169.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,073.26 ล้านบาท ปิดที่ 365.00 บาท ลดลง 7.00 บาท

DTAC มูลค่าการซื้อขาย 897.08 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 0.75 บาท        

JAS มูลค่าการซื้อขาย 897.05 ล้านบาท ปิดที่ 2.88 บาท ลดลง 0.04 บาท

Back to top button