
“พิชัย” ลุยผลักดันไทยหุ้นส่วนเศรษฐกิจสหรัฐ ชูแผนเจรจาภาษี-ดึงลงทุนเทคโนโลยี
รมว.พาณิชย์ ปาฐกถาบนเวทีการค้าระดับสูงไทย-สหรัฐ เปิดเกมรุกดันไทยเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ เสนอแผนลดอุปสรรคการค้า หนุนลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมแย้มส่งออกเดือนเมษายนยังโต แม้สหรัฐเริ่มกดดันภาษีนำเข้า
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Thailand – US Trade & Investment Summit 2025 จัดโดยหอการค้าไทย ร่วมกับหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) และหอการค้าสหรัฐอเมริกา ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ ในวันที่ 20 พ.ค.68 โดยมีนักลงทุน ผู้แทนภาครัฐและเอกชน ทั้งสองประเทศกว่า 300 คนเข้าร่วม
นายพิชัย ระบุว่า เศรษฐกิจไทยภายใต้รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย GDP ไตรมาสแรกปี 2568 ขยายตัว 3.1% การขอรับส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ (BOI) สูงถึง 431,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนการส่งออก 3 เดือนแรกของปีโต 15.2% และโดยเฉลี่ย 6 เดือนนับตั้งแต่รัฐบาลเริ่มงาน การส่งออกโตเฉลี่ย 12.9% และตัวเลขส่งออกเดือนเมษายน ที่จะประกาศในวันที่ 26 พ.ค.นี้ ยังเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีความกังวล เรื่องมาตรการภาษีของสหรัฐ
ด้านการท่องเที่ยวยังเติบโตในเชิงรายได้ โดยปัจจุบันไทยมุ่งเน้นดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ รายได้สูง และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยยังเผชิญโจทย์ท้าทายเรื่องหนี้ครัวเรือนและปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งหากคลี่คลายได้ เศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
นายพิชัย กล่าวเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อความท้าทายจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐที่อาจกระทบต่อภาคการส่งออก ไทยได้มีความพยายามที่จะหารือร่วมกับสหรัฐ ในเวทีต่าง ๆ โดยได้จัดตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน เพื่อประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชน และได้ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายต่อสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับในเชิงบวกจากนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ
สาระสำคัญของข้อเสนอไทย อาทิ เสริมความร่วมมือในสาขาอาหารแปรรูป ดิจิทัล ดาต้าเซ็นเตอร์ และ AI, เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เช่น พลังงาน สินค้าเกษตร และชิ้นส่วนอากาศยาน, ลดอุปสรรคทางการค้า, มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี, ป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า และส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐ
ข้อเสนอเหล่านี้ถูกหารือลึกกับนายจามิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายเบสเซนต์ ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีการค้า APEC ที่เกาะเชจู โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมเดินหน้าการเจรจาเชิงนโยบายที่กรุงวอชิงตันในอนาคตอันใกล้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวเชิญชวนนักลงทุนสหรัฐเข้ามาลงทุนใน “ฐานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่” ของไทย ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานและระบบพลังงานที่มั่นคง รองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ แผงวงจรพิมพ์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ชิ้นส่วน AI และยานยนต์อัจฉริยะ รวมถึงการผลิตขั้นปลายที่เชื่อมโยงกับตลาดอนาคต รัฐบาลยืนยันความมุ่งมั่นในการร่วมมือกับภาคเอกชนในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมก้าวเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างสมบูรณ์แบบ
สหรัฐ เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย รองจากจีน โดยในปี 2567 มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปสหรัฐ คิดเป็น 18% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด ขยายตัว 13.6% สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับเวที Thailand – US Trade & Investment Summit 2025 ยังได้รับเกียรติจากนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธาน AMCHAM และนายจอห์น โกเยอร์ รองประธานหอการค้าสหรัฐ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์และผลักดันความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจสองประเทศ