วุฒิสภา รับหลักการ “พ.ร.บ.ตั๋วร่วม–รฟม.” ผ่านวาระ 3 “หวยเกษียณ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 มีมติผ่านร่างกฎหมาย ที่เสนอโดยรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย รวม 3 ฉบับ

ร่างแรก คือ ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. … หรือ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ซึ่งที่ประชุมมีมติรับหลักการเป็นเอกฉันท์ 155 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณารายละเอียด โดยร่างดังกล่าวเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน วุฒิสภาจึงต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่รับร่างเข้าสู่การพิจารณา ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 กันยายนนี้

ร่างที่สอง คือ ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือ พ.ร.บ.รฟม. ซึ่งที่ประชุมมีมติรับหลักการด้วยคะแนนเสียง 161 เสียง ไม่รับหลักการ 1 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง หลังการอภิปรายสาระสำคัญ พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ กฎหมายฉบับนี้ยังจัดเป็นกฎหมายการเงิน ที่ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลาเดียวกัน คือไม่เกินวันที่ 30 กันยายนเช่นกัน

ทั้งสองร่างถือเป็น กฎหมายสำคัญสำหรับการเดินหน้าโครงการนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งผลักดัน โดยก่อนหน้านี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตั้งเป้าหมายเริ่มใช้วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ก่อนเลื่อนเป็น 15 พฤศจิกายน 2568

นอกจากนี้ ที่ประชุมวุฒิสภา ยังได้ลงมติเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือ หวยเกษียณ ในวาระ 2 และวาระ 3 โดยวาระสุดท้าย มีมติเห็นชอบ 111 เสียง ไม่เห็นชอบ 2 เสียง และงดออกเสียง 8 เสียง จากผู้เข้าร่วมลงมติทั้งหมด 121 เสียง

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หากไม่มีการเปลี่ยนรัฐบาล ประชาชนจะสามารถเริ่มซื้อกองทุนได้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า พร้อมแสดงความหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่ไม่ว่าฝ่ายใด จะเดินหน้านโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง