“ศุภจี” ถก รมต.การค้าเกาหลีใต้ เร่งสรุป FTA ปลดล็อกตลาดสินค้าไทย

“ศุภจี” ใช้เวทีเอเปคหารือ รมต.การค้าเกาหลีใต้ เร่งเจรจาปิดดีลความตกลง CEPA ไทย–โสมขาว ผลักดันเปิดตลาดสินค้าเกษตร–อาหารไทย ตั้งเป้าสรุปผลโดยเร็ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือทวิภาคีกับนายยอ ฮัน-กู รัฐมนตรีการค้าของกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และทรัพยากรของเกาหลีใต้ ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Meeting) ครั้งที่ 32 ณ เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อหารือแนวทางเร่งรัดการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม (Comprehensive Economic Partnership Agreement: CEPA) ไทย–เกาหลีใต้

นางศุภจีกล่าวว่า ถือเป็นการพบหารือครั้งแรกกับรัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้ หลังจากทั้งสองฝ่ายเข้ารับตำแหน่ง โดยได้ใช้โอกาสนี้หารือแนวทางเร่งรัดการเจรจา FTA ไทย–เกาหลีใต้ หรือ “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม (CEPA) ไทย–เกาหลีใต้”

ทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาโดยเร็ว โดยนางศุภจี เชื่อมั่นว่า ความตกลงฉบับนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการค้าและการลงทุน เพิ่มเติมจาก FTA เดิมที่ไทยและเกาหลีใต้มีอยู่ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจโลกที่เผชิญความท้าทาย

นางศุภจี กล่าวว่า ไทยได้หารือกับเกาหลีใต้ถึงแนวทางที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน (Win–Win) โดยเฉพาะการเปิดตลาดการค้าสินค้า ซึ่งไทยขอให้เกาหลีใต้พิจารณาเปิดตลาดให้สินค้าสำคัญของไทย อาทิ มะม่วง เนื้อไก่สดและปรุงแต่ง ปลาทูน่ากระป๋อง กุ้งปรุงแต่ง ผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลัง น้ำตาล และอาหารปรุงแต่ง

ขณะเดียวกัน ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงไทย และเกาหลีใต้ จะเริ่มการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–เกาหลีใต้ (ASEAN–Korea Free Trade Agreement: AKFTA) ในช่วงต้นปีหน้า หลังจากที่ความตกลงฯ มีผลบังคับใช้มากว่าทศวรรษ เพื่อให้ทันต่อสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยไทยคาดหวังว่า AKFTA ที่ยกระดับจะช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการค้าสำหรับภาคธุรกิจในยุคดิจิทัล รวมถึงนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่การค้าที่ยั่งยืนของภูมิภาคอาเซียนและเกาหลีใต้

นอกจากนี้ ไทยยังพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย–เกาหลีใต้ (Joint Trade Commission: JTC) ครั้งที่ 13 ณ กรุงเทพมหานคร ในปีหน้า เพื่อเป็นเวทีระดับนโยบายในการร่วมกันแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้า ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นางศุภจี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยยังคงขาดดุลการค้ากับเกาหลีใต้ จึงได้ขอให้เกาหลีใต้เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและบอร์ดพาร์ทิเคิล ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี

“ไทยขอบคุณและชื่นชมบทบาทของเกาหลีใต้ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคปีนี้ ซึ่งมุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ครอบคลุม และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยไทยสนับสนุนความพยายามของเกาหลีใต้ในการผลักดันการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมการเติบโตสีเขียวและเศรษฐกิจดิจิทัล” นางศุภจีกล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2567 เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้มีมูลค่า 15,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 5,957 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 9,343 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม–สิงหาคม) การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่ารวม 10,349.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ 3,976.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากเกาหลีใต้ 6,372.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม แผงวงจรไฟฟ้า และน้ำมันสำเร็จรูป ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญจากเกาหลีใต้ ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ

Back to top button