“สารัชถ์” ครองบัลลังก์เศรษฐีหุ้นไทย พอร์ต 1.89 แสนล้าน ต่อเนื่องปีที่ 7

ผลจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ยืนหนึ่งต่อเนื่องปีที่ 7 แม้มูลค่าพอร์ตลงทุนลดลงจากภาวะตลาด แต่ยังมีสินทรัพย์รวม 1.89 แสนล้านบาท ด้าน “ประทีป ตั้งมติธรรม” ติดท็อบ 10 ครั้งแรก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ธ.ค.68) วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 ซึ่งจัดทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 32 โดยอ้างอิงรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาที่ถือหุ้นตั้งแต่ 0.5% ขึ้นไป ในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาด mai ตามข้อมูลปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2568

ผลการจัดอันดับปีนี้สะท้อนภาพรวมการเปลี่ยนแปลงของความมั่งคั่งนักลงทุนรายใหญ่ ภายใต้ภาวะตลาดผันผวน โดย สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ยังคงครองตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 189,992.47 ล้านบาท แม้ลดลงจากปีก่อน 20.95% สาเหตุหลักมาจากราคาหุ้น GULF ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 อยู่ที่ 43.50 บาท ลดลงจาก 57.00 บาทในปีก่อน ส่งผลให้มูลค่าพอร์ตโดยรวมลดลง แต่ยังรักษาสถานะแชมป์ด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่ไม่เคยต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทตลอด 7 ปีที่ผ่านมา

อันดับ 2 ยังคงเป็นของ นิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ซึ่งถือครองหุ้นรวม 47,313.08 ล้านบาท ลดลง 20.45% โดยพอร์ตลงทุนยังคงกระจายตัวในบริษัทชั้นนำ 10 แห่ง เช่น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL

ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ “นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ถือครองหุ้นรวม 33,062.33 ล้านบาท ลดลง 34.74% จากการปรับฐานราคาหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลและสายการบิน

ด้านอันดับ 4 และ 5 ยังคงเป็นสองผู้ก่อตั้ง บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ได้แก่ ดาวนภา เพ็ชรอำไพ และ ชูชาติ เพ็ชรอำไพ โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 29,160 ล้านบาท และ 28,878.71 ล้านบาท ตามลำดับ ลดลงราว 18% ทั้งคู่ตามทิศทางราคาหุ้น MTC ในปีที่ผ่านมา

เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 ยังคงเป็น ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ “ทายาทหมอเสริฐ” ซึ่งถือหุ้น BDMS 5.81% และ BA 6.49% รวมมูลค่า 20,732.61 ล้านบาท ลดลง 33% จากแรงกดดันราคาหุ้นในกลุ่มสุขภาพและการบิน

ขณะที่อันดับ 7 คือ ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานคณะกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ซึ่งขยับเข้าสู่ทำเนียบท็อป 10 เป็นครั้งแรก โดยมีมูลค่าหุ้นรวม 18,088.53 ล้านบาท ลดลงเพียง 0.74% นับเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาพรวมตลาดน้อยที่สุดในกลุ่มท็อป 10

อันดับ 8 ได้แก่ สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ซึ่งกลับเข้าสู่ท็อป 10 อีกครั้ง หลังจากหลุดอันดับเมื่อปีก่อน โดยถือครองหุ้นรวม 17,208.38 ล้านบาท ลดลง 1.78% แม้ยังเผชิญแรงกดดันจากความผันผวนในกลุ่มค้าปลีกสินค้าไอที

ส่วนอันดับ 9 คือ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ถือครองหุ้นรวม 16,063.10 ล้านบาท ลดลง 17.45% ตามทิศทางราคาหุ้นกลุ่มขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน

ด้านอันดับ 10 เป็นของ นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี นักลงทุนรายใหญ่และผู้ก่อตั้งพงศ์ศักดิ์คลีนิค ซึ่งกลับมาติดท็อบ 10 อีกครั้ง ด้วยมูลค่าหุ้นรวม 15,404.11 ล้านบาท ลดลง 10.45% โดยยังคงถือหุ้นในกลุ่มค้าปลีกไอที โรงพยาบาล โลจิสติกส์ และธุรกิจบันเทิงหลายแห่ง พร้อมเพิ่มน้ำหนักลงทุนใน บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK, บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ, บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS และ บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ในปีนี้

สำหรับการจัดอันดับตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 ตระกูลรัตนาวะดี ของ “สารัชถ์” ยังคงครองตำแหน่งตระกูลผู้มั่งคั่งสูงสุดด้วยมูลค่าหุ้นรวม 189,992.47 ล้านบาท ลดลง 20.95% ตามด้วยตระกูลจิราธิวัฒน์ ซึ่งมีสมาชิก 48 คน ถือหุ้นรวม 70,933.48 ล้านบาท ลดลง 22.52% ขณะที่ตระกูลปราสาททองโอสถตระกูลโอสถานุเคราะห์ และตระกูลเพ็ชรอำไพ ครองอันดับ 3 ถึง 5 มูลค่าหุ้นรวมลดลงตามภาวะตลาดในอัตราใกล้เคียงกัน

Back to top button