เก็ง 9 หุ้น ฟอร์มดีเดือน พ.ค.SET พยุงตัวเหนือ 1,400 จุด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในแดนบวก และเชื่อว่ายังสามารถประคองตัวเหนือระดับ 1,400 จุดได้ โดยคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ออกมาดีจะเป็นแรงหนุน การลงทุนเน้นหุ้นที่มีความเสี่ยงน้อย มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว แนวโน้มกำไรไตรมาสแรกออกมาดี และมีโอกาสปรับตัวขึ้นในเดือน พ.ค.


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.06 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.83 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้ปัจจัยบวกจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในแดนบวก และเชื่อว่ายังสามารถประคองตัวเหนือระดับ 1,400 จุดได้ โดยคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ออกมาดีจะเป็นแรงหนุน การลงทุนเน้นหุ้นที่มีความเสี่ยงน้อย มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว แนวโน้มกำไรไตรมาสแรกออกมาดี และมีโอกาสปรับตัวขึ้นในเดือน พ.ค.

หุ้นเด่นเลือก CENTEL-MINT-BH-CPNRF-DIF-ERW-THAI-KCE และ TVO

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (3 พ.ค.) ว่า กลุ่มธนาคารแข็งแรงกว่าที่คาด หนุน SET ปรับตัวขึ้น แม้ภาพรวมกลุ่มธนาคารจะยังอ่อนแอ คาด SET ยังคงแกว่งในกรอบแคบ แม้ตลาดหุ้นสหรัฐ และเพื่อนบ้านจะปรับตัวขึ้นวันนี้ จาก 1) นักลงทุนชะลอการซื้อก่อนหยุดยาวสัปดาห์นี้ 2) นักลงทุนรอผลตัวเลขการจ้างงาน และ ดัชนี ISM สหรัฐฯ วันศุกร์นี้ ว่าจะฟื้นตัวได้แข็งแกร่งต่อเนื่องหรือไม่ หลังตัวเลข GDP สหรัฐฯ อ่อนแอกว่าที่คาด 3) ความเสี่ยงจาก “Sell in May and go away” ที่แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ SET จะให้ผลตอบแทนเป็น “ลบ” สูงถึง 60% ทำให้ SET มีโอกาส “พักฐาน” ก่อนที่จะปรับสูงขึ้นไปที่เป้าหมายระยะสัปดาห์บริเวณ 1,430-1,460 จุด

แนะนำ “เลือกซื้อ” กลุ่มหุ้นที่มีความเสี่ยงจำกัด หรือมีโอกาสปรับขึ้นในเดือน พ.ค. ได้ โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกในเดือน พ.ค. CENTEL (รับ 38.00/36.00 บาท), MINT (รับ 36.00 บาท), BH (รับ 98.00 บาท), CPNRF (รับ 19.50-19.70 บาท), DIF (รับ 14.60-14.70 บาท) (จากข้อมูลสถิติ)

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (3 พ.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดวันนี้แกว่งตัวออกด้านข้าง

ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ ยังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆมาสนับสนุนตลาด ประกอบกับการเปิดตลาดเพียง 2 วันในสัปดาห์นี้ อาจทำให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเป็นไปอย่างซบเซา ทำให้คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวออกด้านข้าง ด้านนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 498 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นการขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 6

แนวรับ/แนวต้าน: 1,390/1,420 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

กลยุทธ์: หาจังหวะซื้อเมื่อดัชนีย่อลง เก็บสะสมหุ้นที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี Story หนุนเป็นรายตัว และคาดจะรายงานงบออกมาดีในปีนี้

หุ้นแนะนำ: ERW (5.3), THAI (17), KCE (91)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (3 พ.ค.) ว่า สัปดาห์นี้มีวันทำการซื้อขายเพียง 2 วัน ซึ่งคาดดัชนี SET ยังปรับฐานการกรอบแคบ โดยมีแนวรับ 1,395 จุด และแนวต้าน 1,410-1,420 จุด และระวังหากยืนบริเวณแนวรับ 1,390 +/- ไม่ได้ ดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวสู่ระดับ 1,370-1,380 จุด

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (3 พ.ค.) ว่า SET น่าจะผันผวนในทิศทางบวกตามตลาดหุ้นภูมิภาค แม้วันนี้จะมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่จะได้รับผลลบจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อย่างไรก็ตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศส่วนใหญ่ออกมาดีน่าจะช่วยหนุน SET ยืนเหนือ 1,400 จุดได้ หุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค น่าจะเป็นกลุ่มนำตลาด ส่วนตลาดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโรอยู่ที่ 1.15 ต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปดีขึ้น ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว นอกจากนี้ตลาดยังคาดว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งเดียวในเดือนธ.ค.ของปีนี้ ซึ่งจะยังหนุน Fund Flow ไหลเข้าในตลาดเกิดใหม่

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: TVO (เก็งกำไรถั่วเหลืองขาขึ้น), กลุ่มธนาคาร (ได้ข่าวบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจหนุนนำ)

Back to top button