ราคาน้ำมันร่วงกดดัน SET พักฐานเก็บ 11 หุ้นผลตอบแทนดีเดือน พ.ค.

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนจากทิศทางราคาน้ำมันที่อ่อนตัว ขณะที่ภาพรวมเดือน พ.ค. ยังมีโอกาสพักฐานสูง การลงทุนยังคงอยู่ในช่วงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาสแรก และหุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนในเดือนพ.ค.ดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.23 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.22 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียยกเว้นญี่ปุ่นปรับตัวลง โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลงกว่า 2%

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนจากทิศทางราคาน้ำมันที่อ่อนตัว ขณะที่ภาพรวมเดือน พ.ค. ยังมีโอกาสพักฐานสูง การลงทุนยังคงอยู่ในช่วงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาสแรก และหุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนในเดือนพ.ค.ดี หุ้นเด่นเลือก AAV-CPALL-THANI-MINT-BH-CPNRF-DIF-MTLS-SAWAD-GL และ KTC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ค.) ว่า การ Rebound ของ SET ยังเป็นไปอย่างจำกัดต่อไป จาก 1) ผลของฤดูกาล “Sell in May and go away” 2) การพักฐานหลัง SET ปรับขึ้นมาแรงตั้งแต่ต้นปี และ 3) ราคาน้ำมัน Brent ที่ปรับลดลงเกือบ 4% เมื่อคืนนี้จะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT PTTEP (แนะนำ “เก็งกำไร”THAI ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ โดยมีแนวต้านที่ 17.00 บาท และ Stop Loss15.60 บาท) ทั้งนี้เรายังมองเป้าหมายในการ “ซื้อ” หุ้นรอบนี้ที่บริเวณแนวรับ1,360-1,380 จุด ต่อไป

แม้ SET มีโอกาส “พักฐาน” ในเดือน พ.ค.หลังปรับสูงขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ตามสามารถ “Selective” ได้ ดังนี้

1) กลุ่มหุ้นที่ถ้าพิจารณาในเชิงสถิติให้ผลตอบแทนดีในเดือน พ.ค.: แนะนำ“ซื้อ” MINT BH CPNRF DIF และ “เก็งกำไร” CPALL

2) กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำอย่าง Micro Finance และบัตรเครดิต แนะนำ “ซื้อ” SAWAD MTLS (กำไรไตรมาส 1/59 ที่ 280 ล้านบาท+55% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ราคายัง Laggard SAWAD GL) และ KTC

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ค.) ว่า ทิศทางการลงทุนวันนี้คาดดัชนียังคงผันผวนจากทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงวานนี้ และจับตาทิศทางค่าเงินบาทหากยังมีทิศทางอ่อนค่ากว่าระดับ 35.40 บาท/USD.น่าจะส่งผลลบต่อทิศทางการลงทุนในระยะสั้น ประเมินทิศทางดัขนียังแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,370-1,380 จุด แนวต้าน 1,400 จุด แนะนำซื้อ AAV (+ ผลประกอบการไตรมาส 1/59, ราคาน้ำมันลดลง) และเก็งกำไร CPALL, THANI (+ สัญญาณโมเมนตัมทางเทคนิค)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ มีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นวันนี้ SET น่าจะยัง Sideways แต่หุ้นกลุ่มน้ำมันจะหน่วงตลาดหลังราคาน้ำมันดิบปรับลงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมาและเช้านี้ทำ low ในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้อยู่ระหว่างการประกาศงบไตรมาส 1/59 (ส่งงบ 16 พ.ค. เป็นวันสุดท้าย) ซึ่งคาดว่าผลประกอบของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมไม่ค่อยดี และยังมีอีกหลายบริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/59 จะยังคงอ่อนแอ

นอกจากนี้ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติยังไหลออกต่อเนื่อง ค่าเงินบาทและภูมิภาคอ่อนค่าต่อเนื่อง ดังนั้น SET อาจมีโอกาสปรับลงในระยะสั้นได้ สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้จะมีประกาศอัตราเงินเฟ้อจีนเดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 2.4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเพิ่มขึ้นจาก 2.3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ในเดือนมี.ค. ส่วนพรุ่งนี้ต้องติดตามผลการประชุม กนง. ที่คาดว่ายังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% แม้ตลาดจะรับรู้ไปแล้วแต่เราถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัว /เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบไตรมาส 1/59 จะออกมาดี

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: SAWAD, MTLS, LIT, GL (เล่นเก็งกำไรงบจะออกมาดีต่อเนื่องและลุ้นทำ new high)

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ค.) ว่า SET วันนี้แกว่งตัวลง โดยราคาน้ำมัน WTi ที่ลง 3.1% ขณะที่มองว่าทิศทางตลาดหุ้นในช่วงสั้นๆ จะแกว่งตัว เพื่อรอปัจจัยเพิ่มเติมทั้งฝั่งต่างประเทศ และฝั่งในประเทศเก็งผลประชุม กนง. วันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าจะตรึงดอกเบี้ยที่ 1.5%  แนะนำเก็งกำไรหุ้นมิดแคปที่มีประเด็นงบไตรมาส 1/59 โดดเด่น

Back to top button