“ซีพี” แจกถุงยังชีพ 44 ชุมชน สู้ภัยโควิดพื้นที่สีแดงเข้ม

“ซีพี” แจกถุงยังชีพ เขตชุมชน 44 แห่งพื้นที่สีแดงเข้ม ริมคลองลาดพร้าว-ริมทางรถไฟครบตามเป้าหมาย สร้างกำลังใจให้พร้อมฝ่าวิกฤตโควิด-19


เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยนายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือซีพี มีนโยบายร่วมมือกับพันธมิตรเครือข่าย URBAN ACTIONS เพื่อการพัฒนาเมือง มูลนิธิพุทธรักษา และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จํากัด  ร่วมร้อยเรียงความดีสู่สังคม จัดทำถุงยังชีพ ในโครงการ ครัวปันอิ่มซีพีร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19  “แจกอาหารแห้ง หน้ากากอนามัย และเครื่องใช้จำเป็นประคองสถานการณ์โควิดในชุมชน”

โดยเครือซีพีและพันธมิตร ได้ผนึกกำลังกับผู้นำชุมชนและอาสาสมัครในพื้นที่ร่วมกันคนละไม้คนละมือแจกถุงยังชีพให้คนในชุมชนที่เดือดร้อนไปทั้งสิ้น 9,000 ชุด ใน 44 ชุมชนพื้นที่สีแดงเข้ม โดยได้ช่วยเหลือชุมชนริมคลองลาดพร้าว และชุมชนริมทางรถไฟในกรุงเทพฯ จำนวน 43 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนในเขตห้วยขวาง จตุจักร บางเขน สายไหม หลักสี่ วิภาวดี ราชเทวี สวนหลวง ลาดกระบัง และประเวศ  และจังหวัดสมุทรปราการ อีก 1 ชุมชน ที่ อบต.หนองปรือ

ทั้งนี้การช่วยเหลือสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในชุมชนดังกล่าว เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในชุมชนในช่วงวิกฤตโควิด-19  ประกอบด้วยผู้ที่ขาดรายได้ ว่างงาน กลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่กักตัวดูอาการ และผู้ที่รักษาตัวที่บ้าน ให้สามารถประคองความเป็นอยู่ไปได้ สร้างชุมชนเข้มแข็งสามารถป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่กระจายไปนอกพื้นที่ โดยความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตระหนักของหลายภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยเหลือไม่ทอดทิ้งคนในประเทศ พร้อมร่วมกันส่งกำลังใจต่อสู้ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติให้เร็วที่สุด

นายวีรวุธ รักเที่ยง ประธานชุมชนประชาร่วมใจ เปิดเผยว่า ชาวชุมชนขอขอบคุณซีพีและเครือข่ายพันธมิตรที่ร่วมกันแจกถุงยังชีพให้แก่คนในชุมชน เพราะขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในชุมชนจำนวนหนึ่งและประสบความเดือดร้อนอย่างมาก บางครัวเรือนอยู่ร่วมกันหลายครอบครัวทำให้ต้องมีการกักตัวคนในชุมชนไม่ให้ออกจากบ้าน โดยเราได้แจกถุงยังชีพซีพีไปยังกลุ่มผู้ที่ติดเชื้อและรักษาตัวที่บ้านเป็นกลุ่มแรก และกระจายให้กลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในชุมชน รวมทั้งกลุ่มแรงงานที่ประสบปัญหาตกงาน ถือเป็นโครงการที่ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีทำให้มีชาวชุมชนมีกำลังใจและสามารถประคองชีวิตความเป็นอยู่ในช่วงลำบากนี้ไปได้

นายปิยพันธ์ ชำนาญภักดี ผู้นำชุมชนบ้านพักรถไฟกม.11 เขตจตุจักร กล่าวว่า ชาวชุมชนบ้านพักรถไฟมีผู้ติดเชื้อโควิดและกลุ่มที่มีความเสี่ยงและกักตัวอยู่ที่บ้านประมาณ 200 คน การได้รับถุงยังชีพ โดยเฉพาะได้กระจายแจกจ่ายให้ชาวบ้านกลุ่มกักตัวและมีความเสี่ยงก่อนถือเป็นเรื่องเร่งด่วนและจำเป็นในช่วงที่ต้องรักษาตัวที่บ้านและสังเกตอาการตัวเอง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ขอขอบคุณการส่งกำลังใจจากทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยเหลือพวกเราในยามลำบากขณะนี้

ขณะที่นางพวงผกา จันทร์หิรัญ ประธานชุมชนริมคลองลาดพร้าวประชาอุทิศ เขตห้วยขวาง กล่าวว่า การได้รับถุงยังชีพเป็นประโยชน์มาก เพราะมีทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวบ้านต้องการ เพราะช่วยประคองความเป็นอยู่ในแต่ละวันของคนในชุมชนได้ ต้องขอขอบคุณความตั้งใจของซีพีและพันธมิตรหลายภาคส่วนที่ลงพื้นที่มาช่วยเหลือส่งความห่วงใยให้คนในชุมชน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้เพื่อรอสถานการณ์ให้ดีขึ้น

นางศิริพรรณ เกิดแก่น ประธานชุมชนก้าวหน้า เขตหลักสี่  กล่าวว่า ถุงยังชีพที่ชุมชนได้รับได้เร่งจัดสรรนำไปให้กลุ่มผู้ติดเชื้อโควิดและผู้ที่กักตัวดูอาการที่บ้านเป็นกลุ่มแรก เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในชุมชน แม้วันนี้ทีมงานต้องทำงานดูแลชุมชนอย่างหนัก แต่กำลังใจจากทุกความช่วยเหลือและความห่วงใยที่ส่งต่อให้พวกเราในชุมชน เป็นสิ่งที่ชาวชุมชนก้าวหน้าขอขอบคุณจากใจ

นายสมบุญ แดงอร่าม ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย หนึ่งในพันธมิตรอาสาสมัครของโครงการ กล่าวว่า เครือซีพีและพันธมิตร ได้เข้ามาช่วยเหลือสนับสนุนดูแลชุมชนต่างๆอย่างเต็มที่ตั้งแต่เกิดวิกฤตการระบาดโควิด-19 เมื่อปี 2563 เป็นต้นมา ตั้งแต่ตั้งครัวชุมชนในชุมชนมักกะสันและให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันที่มีโครงการถุงยังชีพและครัวปันอิ่มที่มอบข้าวกล่องปรุงสุกทุกวัน ซึ่งถุงยังชีพที่มีของอุปโภคบริโภคพร้อม มียาและเวชภัณฑ์ได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับชาวชุมชนมักกะสันได้ ถือเป็นสิ่งที่ดีกับพี่น้องในชุมชน พร้อมกันนี้ยังทำให้เหล่าอาสาสมัครมีกำลังใจที่จะประคับประคองพี่น้องในชุมชนให้พ้นวิกฤตโควิด-19 ไปได้

นางสาวเบญจพร ศักดิ์เรืองแมน ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง หนึ่งในพันธมิตรอาสาสมัครในพื้นที่ของโครงการ กล่าวว่า ชุมชนที่อยู่โดยรอบตามแนวรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์มีอยู่ 6 ชุมชน  มีประชากรกว่า 1,100 คน ปัจจุบันพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ราว 90 คน เพราะส่วนใหญ่เป็นชุมชนแออัด ทำให้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมผนึกกำลังให้ความช่วยเหลือชาวชุมชนในช่วงเวลาที่ยากลำบากขณะนี้ผ่านการแจกถุงยังชีพอย่างเต็มกำลัง เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ถูกกักตัวและเป็นกลุ่มเสี่ยง โครงการนี้เป็นหนึ่งในการส่งกำลังใจให้ชุมชนต่างๆและมีพลังใจที่จะสู้ต่อไปเพื่อให้ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

Back to top button