“พรอสเพค” เปิดตัวโครงการ “BFTZ 7” มั่นใจปีนี้ปิดดีลลูกค้า 150,000 ตร.ม.

พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ เปิดตัวโครงการ BFTZ 7 ตอกย้ำบทบาทตัวจริงผู้พัฒนาคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าหลังพื้นที่โครงการทะลุ 1 ล้าน ตร.ม. มั่นใจปีนี้ปิดดีลลูกค้ากว่า 150,000 ตร.ม.


นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด ผู้พัฒนาและบริหาร โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมา ความต้องการใช้งานคลังสินค้าและโรงงาน ให้เช่าพุ่งสูงขึ้นโดยเฉพาะทําเลยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์สะท้อนได้จากพื้นที่ของโครงการบางกอกฟรีเทรด โซน ซึ่งมีอัตราการเช่าเฉลี่ยรวมทุกโครงการสูงถึง 85.88%

สำหรับโครงการ BFTZ 7 จึงเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ PD ซึ่งมาเติมเต็มความแข็งแกร่งของโครงการเดิมในโซนบางนา-ตราด นอกเหนือจากโครงการ BFTZ 1 ถนนบางนา-ตราด กม.23 รวมถึง โครงการ BFTZ2 ถนนเทพารักษ์ และ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งได้พัฒนาพื้นที่และเติมผู้เช่าได้อย่างรวดเร็วจากโมเดลการพัฒนาอาคารแบบเดิมเริ่มต้นจากที่ดินเปล่าโครงการ BFTZ7 นั้นมาพร้อมโมเดลใหม่ คือ การเข้าแปลงโฉมอาคารคลังสินค้าที่มีอยู่แล้วให้ตอบโจทย์ภายในระยะเวลาอันสั้นสะท้อนวิสัยทัศน์และตอกย้ำความเชี่ยวชาญ ด้านการพัฒนาพื้นที่ทุกรูปแบบ ทำให้สามารถรองรับธุรกิจที่หลากหลายในทุกช่วงเวลา

โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มใช้งานอาคารในระยะยาว พร้อมขยายธุรกิจไปด้วยกันแม้ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการโครงการ BFTZ7 ก็ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จํากัด บริษัท โลจิกสติกส์ชั้นนําของไทย ที่ต้องการขยายธุรกิจและยกระดับมาตรฐานอาคารสําหรับกระจายสินค้าซึ่งจองใช้พื้นที่เรียบร้อยแล้วสอดคล้องกับสถานการณ์การเติบโตของตลาดโลจิสติกส์ไทย ปี 2565 มีมูลค่าทุนจดทะเบียนสะสมกว่า 419,720.39 ล้านบาท (ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) นอกจากนี้ ข้อมูลอุตสาหกรรมผู้เช่าใน 6 โครงการเดิม ยัง สะท้อนโอกาสใหม่ทางธุรกิจหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค, ธุรกิจรีไซเคิล, ธุรกิจผลิต Solar Cell, ธุรกิจการ ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่เติบโตไปกับเทรนด์พลังงานสะอาดอย่างยานยนต์ไฟฟ้า

ส่วนการยกระดับกลยุทธ์ มากกว่าพื้นที่ ส่งอาคาร Ready Built-to-Suit เชื่อมั่นปิดปีด้วยลูกค้าใหม่ 150,000 ตร.ม.ด้วยจุดแข็งอย่างพื้นที่เช่าในโครงการ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 และ โครงการ BFTZ 5 วังน้อย ซึ่งพัฒนาเสร็จ เต็มพื้นที่พร้อมส่งมอบทันที ตอบโจทย์ความต้องการใช้พื้นที่อาคารคลังสินค้าและโรงงานของลูกค้าต่างชาติช่วงหลังเปิดประเทศที่มีแนวโน้มมองหาและตัดสินใจเช่าพื้นที่รวดเร็วขึ้น รวมถึงความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอาคารเฉพาะทาง ดังเช่น อาคารคลังสินค้าวัตถุอันตราย (DG Warehouse) ในโครงการ BFTZ 3 บนพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone) หนึ่งเดียว ย่านบางนา-ตราด ซึ่งพร้อมสร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการมาใช้งานพื้นที่เพิ่มเติมได้

ขณะด้านศักยภาพในครึ่งปีแรก PD มั่นใจว่าจะปิดปีด้วยลูกค้าใหม่รวมกว่า 150,000 ตร.ม.นํามาสู่การปรับเปลี่ยนภาพรวมโรคแมพในปี 2566 ให้รองรับการเติบโตในทําเลศักยภาพแห่งอนาคตโดยพุ่งเป้าไปที่โครงการ BFTZ 4 บางปะกง, BFTZ 6 ถนนบางนา-ตราด กม.19, โครงการ BFTZ7 ถนนบางนา-ตราด กม.10 ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบภายในสิ้นปี 2566 และต้นปี 2567 ตามลําดับ ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมเร่งยกระดับกลยุทธ์ มากกว่าพื้นที่ มอบความยืดหยุ่นทั้งด้านการบริการและการใช้งานอาคารครบทุกมิติ ผ่านอาคารรูปแบบ Ready Built- to-Suit ซึ่งเป็นการพัฒนาอาคารเดิมที่ได้มาตรฐานอยู่แล้วให้ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของลูกค้าแต่ละอุตสาหกรรมที่มีความเฉพาะตัว นํามาซึ่งสัญญาเช่าระยะยาวและดันอาคารขนาดใหญ่พื้นที่เช่าตั้งแต่ 10,000 ตร.ม. ให้ได้รับความสนใจมากขึ้น

สำหรับหมุดหมายใหม่ลุยพื้นที่วังน้อยและ EEC หลังทําผลงานทะลุเป้า 1 ล้าน ตร.ม.บริษัทมองว่าภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมในสถานการณ์เศรษฐกิจไทยวันนี้กําลังเติบโต ด้วยสัญญาณดีจาก หลายปัจจัยสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการนําเข้า-ส่งออก ซึ่งผู้ประกอบการบนพื้นที่เขตปลอด อากร หรือ Free Zone ความแข็งแกร่งของพันธมิตรทางธุรกิจในไทย (Ecosystem) บวกกับนโยบายด้านการลงทุนที่ส่งผลดีต่อการทําธุรกิจ อาทิ การประกาศส่งเสริมการลงทุนโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และชิ้นส่วนของรัฐบาลไทยซึ่งจะกระตุ้นให้กลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจหลั่งไหลเข้ามาต่อเนื่อง

 “การดําเนินธุรกิจในยุคปกติใหม่ ต้องไม่รอให้ถูก Disrupt แล้วแก้ไขสถานการณ์ แต่ต้อง Proactive พร้อมปรับตัวและ เตรียมรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา PD มองว่า 3 ตัวแปรหลัก ได้แก่ ทําเลศักยภาพ คุณภาพอาคารและ การบริการ รวมถึงความเชื่อมั่นในประสบการณ์ของผู้พัฒนาโครงการ คือ สิ่งที่นักลงทุนตัดสินใจเลือกโครงการของเราตั้ง ฐานการผลิตและประกอบธุรกิจ การยึดมั่นในกลยุทธ์และทํางานใกล้ชิดลูกค้า ส่งผลให้เป้าหมายการพัฒนาพื้นที่เช่าใน ไปป์ไลน์ประสบความสําเร็จเกินคาด จากเดิม 1,000,000 ตร.ม. ภายในปี 2567 มุ่งสู่ 2,000,000 ตร.ม. ภายในปี 2571 ขณะที่ New Goal ของบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสพัฒนาโครงการใหม่ เพราะเรามีที่ดินในพอร์ต รอการพัฒนาตรงบริเวณ พื้นที่วังน้อย จุดยุทธศาสตร์กระจายสินค้าสู่ภูมิภาค และ แหลมฉบัง ซึ่งอยู่ในเขต EEC หมุดหมายใหม่ของการเติบโต หลังจากนี้” นางสาวรัชนี กล่าวเสริม

โดยเพื่อเพิ่มเม็ดเงินการลงทุนสําหรับขยายธุรกิจ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ เตรียมออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2566 อายุ 2 ปี อัตรา ดอกเบี้ยคงที่ (คาดว่า) 6.70% ต่อปี ชําระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ระยะเวลาเสนอขายวันที่ 26-28 มิ.ย. 2566 ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จํานวนของหุ้นกู้ที่เสนอขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 700,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 700 ล้านบาท เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านผู้จัดการการจําหน่ายหลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จํากัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จํากัด(มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จํากัด

Back to top button