
TEGH บวกต่อ 2% โบรกชี้กำไรปี 69 ฟื้น รับราคายาง-ดีมานด์ยุโรปพุ่ง ชูเป้า 4.40 บ.
TEGH บวกต่อ 2% คาดกำไรปี 69 ฟื้นตัวเด่น รับอานิสงส์ราคายาง-ดีมานด์ยุโรปหนุน พร้อมประเมิน 3 กลุ่มธุรกิจเติบโตจากการเพิ่มกำลังการผลิต ตั้งเป้าปริมาณขาย 2.9-3.0 แสนตัน เติบโต 12-15% จากช่วงปีก่อน โบรกแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ธ.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ณ เวลา 11:24 น. อยู่ที่ระดับ 2.92 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 1.39% ราคาสูงสุดที่ระดับ 2.94 บาท ราคาต่ำสุดที่ระดับ 2.88 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนี้ตี้ จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ต่อหุ้น TEGH โดยประเมินว่า แนวโน้มกำไรในไตรมาส 4/2568 อาจเห็นการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังอ่อนตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการฟื้นตัวจะมาจากราคาขายยางที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น และปริมาณการขายยาง EUDR ส่วนธุรกิจปาล์มอาจเห็นปริมาณผลปาล์มเพิ่มขึ้น จากปริมาณฝนในช่วงก่อนหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณขายและอัตราการใช้กำลังการผลิตดีขึ้น ฝ่ายนักวิเคราะห์จึงยังคงประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 518 ล้านบาท (ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน) โดยกำไรงวด 9 เดือนปี 2568 คิดเป็นราว 85% ของประมาณการทั้งปี
ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 4.40 บาท อิง PER 7.5 เท่า (อิง GGM) โดยราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาทำให้ Upside ยังน่าสนใจ จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 495 ล้านบาท โดยประมาณการของฝ่ายนักวิเคราะห์อาจมี Downside ราว 10% และคงประมาณการกำไรปกติปี 2569 ที่ 606 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน) ราคาหุ้นปัจจุบันตอบรับเชิงลบต่อผลประกอบการในไตรมาส 3/2568 ไปพอสมควร ซื้อขายบน PER ปี 2569 ที่ 5.1 เท่า และคาดหวังเงินปันผลจ่ายได้ที่ระดับ 6-7% ต่อปี ถือว่าอยู่ในระดับสูงและช่วยจำกัด Downside risk ต่อราคาหุ้น เชิงพื้นฐาน คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 4 บาท
นอกจากนี้ ผู้บริหารมองแนวโน้มราคายางปี 2569 ที่ +/- 65 บาท สูงขึ้นเล็กน้อยจากเฉลี่ยปี 2568 ที่ราว 60 บาท/กก. จากแนวโน้ม Supply ยางในตลาดโลกที่ตึงตัว และมีนโยบายจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่ช่วยสนับสนุนราคายาง
รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จํากัด ระบุว่า TEGH คงเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2568 ราว 2.1-2.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ปรับลดเป้าปริมาณขายยางเป็น 2.6 แสนตัน จากเดิมที่ 2.7-2.8 แสนตัน ช่วง 9 เดือนปี 2568 ขายแล้ว 2.0 แสนตัน คิดเป็น 75% ของเป้าทั้งปี
แนวโน้มในไตรมาส 4/2568 คาดปริมาณขายยางราว 6.5 หมื่นตัน ทรงตัว QoQ ขณะที่คาดราคาขายจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย QoQ โดยในงวดไตรมาส 3/2568 เป็นจุดต่ำสุดของปี
สำหรับการเติบโตในปี 2569 ใน 3 กลุ่มธุรกิจจะมาจากการเพิ่มกำลังการผลิต โดยธุรกิจยางบริษัทฯตั้งเป้าปริมาณขาย 2.9-3.0 แสนตัน เติบโต 12-15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดราคาขายเฉลี่ยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 68 Bloomberg Consensus คาคการณ์กำไรปี 2568-2569 ราว 560 ล้านบาท +1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และ 653 ล้านบาท +17%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ มีราคาเหมาะสมเฉลี่ย 4.00 บาท มี Upside จึงแนะนำ “ซื้อ”

