GFPT โบรกอัพกำไรปี 65-66 ตามปริมาณ-ราคาขายไก่พุ่ง ลุ้นปีนี้แตะ 1.6 พันล.

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (25 ก.ค.65) ว่า บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน)  หรือ GFPT คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 19.00 บาท โดยคาดว่าบริษัทจะรายงาน core profit ในไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 443 ล้านบาท (โต 152% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, โต 4% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ขยายตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานต่ำ และยังเดินหน้าขยายตัว เทียบไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจาก

1.) รายได้จากธุรกิจ farm ที่ปรับขึ้นโดดเด่นจากราคาขายไก่และปริมาณขายที่ปรับตัวขึ้น 2.) gross margin ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 15% ผลจากราคาขายที่ดีขึ้น 3.) SG&A ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 9.3% จากค่าระวางเรือที่ปรับตัวลง แต่คาดว่า equity income จะปรับตัวลงจากต้นทุนของ GFN และ Mckey ที่สูงขึ้น

โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565/2566 ขึ้น โต 24% และ โต 18% อยู่ที่ 1,606 ล้านบาท (โต 711% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และ 1,787 ล้านบาท (โต 5%) จากการปรับ 1.) gross margin ขึ้นเป็น 14.5% จากคาดการณ์ราคาขายไก่ที่จะทรงตัวใน ระดับสูงได้ และต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มปรับตัวลง 2.) equity income ขึ้นจากส่วนแบ่งกำไรจาก GFN และ Mckey ดีขึ้น 3.) SG&A/Sales ลดลงจากค่าระวางเรือที่เริ่มปรับตัวลง โดยปี 2566 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตได้จากกำลังการเชือดที่มากขึ้น และ U.rate ที่ดีขึ้น

ด้านราคาหุ้น underperform SET -13% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาสาเหตุมาจากการปรับตัวลงของราคาหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวลว่ารัฐบาลจะเข้ามาแทรกแซงราคาขายไก่ จากที่กระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าราคาขายและหมูจะปรับตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง แต่มองว่าจากประกาศของกระทรวงพาณิชย์เป็นไปตามกลไกตลาดมากกว่าการแทรกแซง เนื่องจากปัจจุบันราคาต้นทุนวัตถุดิบได้เริ่มปรับตัวลงมาต่อเนื่อง

ดังนั้นจึงมีมุมมองว่าราคาขายเนื้อสัตว์ในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสปรับตัวลง แต่จะยังอยู่ในระดับสูงได้จากการบริโภคที่ฟื้นตัว และ supply หมูที่หายไปจาก ASF โดยยังแนะนำ “ซื้อ” จากผลการดำเนินงานของบริษัทที่ฟื้นตัวเด่นในปี 2565 และยังเติบโตได้ต่อปี 2566 มี catalyst จากโรงเชือดแห่งใหม่ที่มี capacity เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว และ U.rate ที่ดีขึ้น