SET ปิดเช้ารีบาวด์ 9 จุด รับบอนด์ยีลด์ย่อลง คลายกังวลชั่วคราวเจรจาไทย-สหรัฐ

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงต้นภาคเช้าแกว่งทรงตัวหลังจากวานนี้ร่วงลงรับความผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/68 ส่วนใหญ่ออกมาน่าผิดหวัง โดยเฉพาะ AOT SAWAD ซึ่งแรงขายได้ผ่านไปแล้ว แต่ยังมีความเสี่ยงกดดันจากโอกาสการเจรจาของไทยกับสหรัฐหลังจากนายทักษิณ ชินวัตร ยังไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้

แต่ล่าสุดมีภาพของนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายทักษิณ ได้เข้าพบปะกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ทำให้ภาพความกังวลคลี่คลายลงชั่วคราว หนุนดัชนีเด้งกลับขึ้นมาแกว่งในแดนบวก

รวมทั้งอัตราแผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) อ่อนตัวหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐซบเซา โดยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ออกมาต่ำกว่าคาด แต่ส่งผลดีกับกลุ่ม Emerging Market

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยรับผลบวกจำกัด เนื่องจากยังต้องติดตามกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีที่นายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องโทษจำคุก 1 ปีและหลบหนีคดีไปต่างประเทศ แต่กลับได้รับการพาตัวเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ทันทีที่เดินทางกลับมา เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

อีกทั้งในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ประกาศผลการทททวนดัชนี MSCI Equity Indexes ซึ่งมีหุ้นไทยหลายตัวถูกถอนออก และยังลดน้ำหนักหุ้นใหญ่ด้วย แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่าย น่าจะยังแก่งตัวในแดนบวกต่อไปได้ พร้อมให้แนวต้าน 1,200 จุด แนวรับ 1,190 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,279.19 ล้านบาท ปิดที่ 293.00 บาท ลดลง  3.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,092.02 ล้านบาท ปิดที่  51.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

DELTA มูลค่าการซื้อขาย   948.11 ล้านบาท ปิดที่ 115.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย   857.31 ล้านบาท ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย   738.73 ล้านบาท ปิดที่  35.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท