แรงขายหุ้น “เดลต้า-ปิโตร” กด SET ปิดลบ 3 จุด แนวโน้มพรุ่งนี้ซึมต่อ
SET ปิดลบ 3.31 จุด ผันผวนตามตลาดต่างประเทศ หลังหุ้นเทคโนโลยีโลกถึงจุดอิ่มตัว กดดัน DELTA ราคาร่วง พ่วงกลุ่มปิโตรเคมีปรับลงต่อเนื่อง แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดซึมตัวให้กรอบแนวรับ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,320 จุด
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
SET ปิดวันนี้ที่ 1,295.29 จุด ลดลง 3.31 จุด (-0.25%) มูลค่าซื้อขาย 43,468.21 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งผันผวน จากปัจจัยแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ภายหลังจากการแสดงความคิดเห็นของผู้บริหารหลายองค์กรในงานสัมนาที่ฮ่องกงแสดงถึงความกังวลว่าหุ้นเทคอาจเต็มมูลค่าแล้วและเสี่ยงในการปรับฐาน ขณะที่บรรยากาศลงทุนอ่อนแอลงทำให้หุ้นถูกขายทำกำไรแม้จะรายงานผลประกอบการออกมาดีก็ตาม สะท้อนว่านักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ขณะเดียวกันแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอาจทำให้บรรยากาศการลงทุนในช่วงถัดไปมีโอกาสชะลอตัวลง
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ Sentiment ตลาดเคลื่อนไหวสอดคล้องกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยราคาหุ้น DELTA ร่วงลงช่วงเปิดตลาด สอดคล้องกับหุ้น DELTA ที่เทรดในไต้หวัน ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ประคองดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ คือกลุ่มสื่อสารหลังงบทั้ง ADVANC และ TRUE ออกมาดี
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มปิโตรเคมียังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยภาพรวมผลประกอบการของกลุ่มตั้งแต่ต้นปียังคงติดลบ ทำให้มีการปรับประมาณการกำไรลง ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มที่ฟื้นขึ้นก่อนหน้านี้มาจาก Valuation ไม่แพง แต่ไม่ได้มาจากคาดการณ์ทิศทางผลประกอบการ ท้ายที่สุดเมื่อผลประกอบการไม่พลิกกลับมาดี และยังมีแนวโน้มเติบโตน้อยลง ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงไปตามผลประกอบการ
ตลาดหุ้นไทยลงมาทดสอบแนวรับ 1,283 จุด แต่ยังฟื้นมายืนเหนือ 1,290 จุดได้ ทำให้เป็นภาพของการปรับฐาน ไม่ใช่แนวโน้มขาลง แต่พรุ่งนี้ตลาดยังมีโอกาสซึมตัว ช่วงนี้จะขึ้นกับผลประกอบการของ บจ.เป็นหลัก ซึ่งจะมีการทยอยประกาศออกมามากขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า หากเติบโตดีจะเห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้น แต่หุ้นบางตัวผลงานอาจชะลอตัวระยะสั้น แต่มองเป็นโอกาสทยอยลงทุนได้ เพราะแนวโน้มน่าจะดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก และกลุ่มโรงพยาบาล พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,320 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,356.58 ล้านบาท ปิดที่ 182.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,331.90 ล้านบาท ปิดที่ 313.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,548.16 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,098.18 ล้านบาท ปิดที่ 11.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,974.02 ล้านบาท ปิดที่ 20.70 บาท ลดลง 1.50 บาท