กรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส

หนึ่งในมติครม.ทิ้งทวนของรัฐบาลบิ๊กตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ก่อนจะประกาศยุบสภา (ตามกระแสข่าวเป็นวันที่ 20 มี.ค.นี้) ที่เป็นไฮไลต์คงหนีไม่พ้นการกดปุ่มไฟเขียวให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เดินหน้า 2 โครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง และโครงการให้บริการคลังสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 3 วงเงินรวมกว่า 67,305 ล้านบาท เพื่อรองรับการกลับมาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย นั่นหมายความว่า สเต็ปถัดไปก็จะมีการเปิดประมูลทั้ง 2 โครงการ ซึ่งในส่วนของบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นฯ มีเจ้าถิ่นอยู่ 2 ราย นั่นคือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2583 และบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ในนามบริษัท กรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2569 ส่วนการให้บริการผู้โดยสาร เจ้าถิ่นมีอยู่ 3 รายด้วยกัน คือ THAI จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2583, บริษัท กรุงเทพเวิลด์ไวด์ฯ และบริษัท ลุฟท์ฮันซ่า เซอร์วิส (ไทยแลนด์) ซึ่ง 2 รายหลังสิ้นสุดสัญญาไปแล้วเมื่อปี 2564 แต่ AOT ได้ว่าจ้างให้ดำเนินการชั่วคราว ขณะที่การให้บริการคลังสินค้านั้น มีเจ้าถิ่นเป็น THAI จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2583 และ BA ในนามบริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจีคาร์โก้ จำกัด จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2569 ถ้าดูศักยภาพของเจ้าถิ่น โดยเฉพาะ THAI กับ BA...ถ้าเป็น BA แน่นอนต้องสู้ยิบตาอยู่แล้ว “หมอเสริฐ”-นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ คงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ หรอก...เชื่อสิ ส่วน THAI ก็คงอยากจะสู้เหมือนกัน แต่อาจสู้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือเผลอ ๆ อาจถอดใจไม่ลงแข่งเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากยังมีชนักติดหลัง อยู่ในขั้นตอนการกู้ชีพ (ฟื้นฟูกิจการ)... แหม๊...ดันไปเข้าทางปืนบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA (AOT ถือหุ้น 49% และบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ SAL ที่ถือหุ้นใน AOTGA อีก 51%) พอดิบพอดี ที่หมายมั่นปั้นมือจะยึดงานบริการภาคพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นประตูด่านหน้าต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ถือเป็นขุมทรัพย์แหล่งใหญ่ หลังจากก่อนหน้านี้ไปตีเมืองขึ้นที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินภูเก็ต สำเร็จมาแล้ว... แถมถ้าดูจากโปรไฟล์ของ AOTGA ซึ่งมีสถานะเป็นทั้งบริษัทลูกของ AOT และเป็นหลานในไส้ของ SKY นั้น ถือว่ามีภาษีไม่ได้ด้อยไปกว่าคู่แข่งเลยนะ เรียกว่ามีแบ็กดีขนาดนี้ AOTGA คงนอนมาแหง ๆ..!? ซึ่งถ้าไม่ผิดไปจากนี้ สุดท้ายคนที่จะได้ประโยชน์สูงสุด ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง AOT และถือหุ้นทางอ้อมอย่าง SKY นั่นแหละ อ้อ...บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เป็นอีกรายที่จะได้ประโยชน์ด้วยนะ เนื่องจากถือหุ้น AOTGA ทางอ้อมผ่าน SAL (III ถือหุ้น SAL สัดส่วน 25%) ซึ่งน่าจะได้ถึง 2 ขาด้วยกัน...ขาแรก จากการถือหุ้นทางอ้อมผ่าน SAL และด้วย III เป็นผู้ประกอบการโลจิสติกส์ที่เก่งกาจด้านการขนส่งทางอากาศ ก็น่าจะ Synergy กันได้อีกขา งานนี้ผู้ชนะก็คงสมประโยชน์นอนตีพุงไปตาม ๆ กัน ส่วนผู้แพ้ก็ต้องเก็บสัมภาระกลับบ้านเก่าไปตามระเบียบ..!! ...อิ อิ อิ...