กระตุ้นเศรษฐกิจจีน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันนี้ (7 พ.ค.68) ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เตรียมเดินทางไปยังนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าร่วมการเจรจาระดับทวิภาคีกับจีน นำโดย นายสก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายเจมส์สัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โดยจะหารือร่วมกับ นายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ในวันที่ 8 พ.ค.นี้ การประชุมครั้งนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวระดับสูงครั้งแรก นับตั้งแต่สหรัฐฯ เริ่มเรียกเก็บภาษีศุลกากรชุดใหม่กับสินค้าจีน ซึ่งบางรายการมีอัตราสูงถึง 145% ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยภาษี 125% ต่อสินค้าสหรัฐฯ ทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศตึงเครียดตลอดช่วงที่ผ่านมา แม้ทั้งสองฝ่ายจะไม่เปิดเผยว่า ใครเป็นผู้ริเริ่มการหารือในครั้งนี้ แต่สื่อระบุว่า การเจรจาเป็นผลจากช่องทางการสื่อสารลับที่ดำเนินมาต่อเนื่องหลายเดือน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดแรงเสียดทานทางการค้า และเปิดทางสู่การจัดทำข้อตกลงใหม่ในอนาคต ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยลดอัตราส่วนการกันสำรอง (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลง 0.5% เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและสนับสนุนการปล่อยกู้ในระบบการเงิน พร้อมกันนี้ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยของกองทุนเพื่อการซื้อบ้าน (Housing Provident Fund) ลงอีก 0.25% หวังกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ตลาดหุ้นตอบรับข่าวบวกทันที ดัชนี ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ปรับตัวขึ้น 206.8 จุด หรือ +0.51% ข้อมูล ณ เวลา 22:19 น. (ตามเวลาไทย) ของวันที่ 6 พ.ค.68 ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เมื่อเวลา 10:19 น. (ตามเวลาไทย) ของวันที่ 7 พ.ค.68 เพิ่มขึ้น 327.29 จุด หรือ +1.44%