กลยุทธ์ดิจิทัล

นายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ ประธานกลุ่มงานกลยุทธ์องค์กรและดิจิทัล (Chief Strategy and Digital Group) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยในงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ว่า บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,004.27 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 10,100.28 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมธนาคารยังคงเผชิญการเติบโตเชิงลบ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายได้ต่ำที่มีความเปราะบางสูง ธนาคารจึงดำเนินกลยุทธ์ปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ควบคู่กับ “Strategic Key Initiative” ที่มุ่งรักษาคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ เลือกเติบโตในกลุ่มศักยภาพ และเร่งเดินหน้า Digital Transformation อย่างต่อเนื่อง สำหรับการบริหารความเสี่ยงด้านงบดุล ธนาคารเน้นการปล่อยสินเชื่อรอบคอบและขยายสินเชื่อเสริม (Top-up Loan) ให้ฐานลูกค้าเดิมที่มีความเข้าใจความเสี่ยงชัดเจน ในไตรมาส 2/68 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ลดลง 3.6% จากไตรมาสก่อนหน้า อัตราส่วนดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.07% ลดลง 12 basis points สะท้อนแรงกดดันดอกเบี้ยขาลง ขณะที่สินเชื่อรวมลดลงเล็กน้อย 0.4% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังเติบโตในกลุ่มที่ธนาคารให้ความสำคัญ เช่น บัตรเครดิตและสินเชื่อ Cash Your Home ด้านเงินฝากลดลง 0.7% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยธนาคารเน้นบริหารต้นทุนการเงินให้อยู่ในทิศทางลดลง รายได้ค่าธรรมเนียม (Fee Income) ไตรมาส 2 เติบโต 9% จากไตรมาสก่อนหน้า แม้รายได้สินเชื่อชะลอตัว แต่ Non-loan related ขยายตัวดีจากฤดูกาลจ่ายเงินปันผล ขณะที่กลยุทธ์ระยะยาว ธนาคารเร่งสร้างรายได้ผ่านแอปพลิเคชัน TTB Touch ซึ่งเป็นช่องทางหลักของสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต และ Flash Card พร้อมใช้ระบบ Personalized Offer และเปิดตัว Customer Status Tier กับ Mission ช่วยเพิ่ม AUM กว่า 8,000 ล้านบาท ด้านประสิทธิภาพ ต้นทุนต่อธุรกรรมผ่าน TTB Touch ต่ำกว่าสาขาหลายเท่า ทำให้สัดส่วนธุรกรรมดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็น 93% ส่งผลให้ปิดสาขาไปแล้ว 36 แห่ง และลดพนักงาน 700 คน ค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง 5% จากปีก่อนหน้า ธนาคารยังคงใช้แนวทางบริหารความเสี่ยงแบบอนุรักษ์นิยม (Conservative) ภายใต้ IFRS9 และตั้งสำรองสูง โดยมี Management Overlay 1.3 หมื่นล้านบาท Risk Cost ครึ่งปีแรก 147 bps ขณะเดียวกันยังเดินหน้าติดตามหนี้เชิงรุกและเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ของภาครัฐและสมาคมธนาคารไทย เพื่อช่วยลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งสินเชื่อบ้าน รถยนต์ และธุรกิจ ในครึ่งปีแรก TTB มีกำไรสุทธิราว 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น ROE 8.5% สะท้อนประสิทธิภาพการทำกำไรบนสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ขณะเดียวกันยังเสริมศักยภาพธุรกิจด้วยการเข้าซื้อหุ้น Thanachart Securities รวม 99.97% เสริม Wealth Ecosystem อย่างครบวงจร โดยสถานะเงินกองทุนแข็งแกร่ง Tier 1 ราว 18% CAR ราว 20% ล่าสุดดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 7,000 ล้านบาท เสร็จสิ้นแล้วที่ 5,000 ล้านบาท หรือ 2% ของหุ้นทั้งหมด พร้อมปรับนโยบายจ่ายปันผลระหว่างกาลราว 60% ของกำไรสุทธิ นอกจากนี้ TTB ย้ำความสำคัญของการสร้าง Financial Literacy ควบคู่กับการปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อบ้านและรถยนต์ รวมถึง Top-up Loan และผลิตภัณฑ์รวมหนี้ เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยและสร้างวินัยทางการเงินของลูกค้า โดยธนาคารเชื่อว่าความแข็งแกร่งทางการเงินของลูกค้าจะเป็นฐานสำคัญในการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจในอนาคต Company Snapshot