กิ่งกมล เกษมวิลาศ

ในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยถูกโรคร้ายรุมเร้า ไหนจะภาษีการค้าสหรัฐฯ ที่ฉุดให้เศรษฐกิจโลกซบเซา ไหนจะสงครามอิหร่าน-อิสราเอล ที่เปิดฉากยิงขีปนาวุธใส่กัน โดยมีสหรัฐฯ คอยให้ท้ายอิสราเอล ตามด้วยปมความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา มิหนำซ้ำการเมืองในประเทศยังปั่นป่วน ไม่รู้ว่ารัฐบาลนายกฯ “อุ๊งอิ๊ง”-แพทองธาร ชินวัตร จะอยู่ได้นานแค่ไหน...เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทุบตลาดหุ้นไทยจนบอบช้ำ ดัชนีหลุด 1,100 จุด ไปแล้ว แต่ในภาวะที่หุ้นไทยอาการโคม่า 3 วันดี 4 วันไข้ กลับมีหุ้นตัวหนึ่ง No สน No แคร์ ปัจจัยรอบข้าง ยังคงวิ่งกระจุยกระจายต่อเนื่อง...หุ้นที่ว่านี้ ก็คือ บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) หรือ DV8 นั่นเอง... โดยรอบ 3 เดือน ราคาปรับขึ้นไป 1,307% รอบ 1 เดือน ราคาปรับขึ้นไป 37% และรอบ 1 สัปดาห์ ราคาปรับขึ้นไป 13% เรียกว่าจากหุ้นไม่เต็มบาท เผลอแป๊บเดียวอัพเกรดขึ้นเป็นหุ้น 5 บาทเศษไปแล้ว ส่วนหัวนอนปลายเท้าของหุ้นตัวนี้หลายคนคงพอรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าให้ย้ำหัวหมุดอีกที เริ่มจากบริษัท อ่าวขามไทย ทำธุรกิจเหมืองแร่ดีบุกในทะเลและเช่าเรือขุดแร่ ต่อมาขาดทุนหนัก เลยเปลี่ยนไปทำธุรกิจผลิตหินอุตสาหกรรม ใช้ชื่อบริษัท ซิโน-ไทย รีซอร์เซส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ STRD พอปี 2540 STRD ขาดทุนหนักมาก จึงต้องเข้าฟื้นฟูกิจการและถูกพักการซื้อขาย จากนั้นหันมาทำธุรกิจทีวีผ่านดาวเทียม และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เอเซีย จอยท์ พาโนราม่า จำกัด (มหาชน) หรือ AJP ต่อมาเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DCORP ทำธุรกิจมีเดีย ธุรกิจนวัตกรรม และธุรกิจพลังงานทดแทน กระทั่งมาเป็น DV8 ในปัจจุบัน แม้จะเปลี่ยนหัวโขนและกระดองมานับไม่ถ้วน แต่สันดาน อุ๊ย...พฤติกรรมหุ้นก็ยังไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นหุ้นที่สร้างบาดแผลให้กับนักลงทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า... ส่วนการวิ่งแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมของหุ้น DV8 ครั้งนี้ ถูกมองว่ามาด้วยสตอรี่การมาของกลุ่มทุนใหม่นั่นก็คือ “กัญญา ชัยสาธิตพร” แต่ “กัญญา” ไม่ได้เข้ามาซื้อหุ้นสามัญโดยตรง...ใช้วิธีซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ (วอร์แรนต์) ของ DV8 ชุดที่ 2 (DV8-W2) เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2568 จำนวน 238.79 ล้านหน่วย คิดเป็น 18.0913% ส่งผลให้ถือเพิ่มเป็น 268.79 ล้านหน่วย คิดเป็น 20.3642% จากเดิมถือ 30 ล้านหน่วย คิดเป็น 2.2728% ส่วนคนที่ขายวอร์แรนต์ DV8-W2 ให้กับ “กัญญา” ประกอบด้วย “บุญชัย เกษมวิลาศ” ผู้ถือหุ้นอันดับ 1, “สุนันท์ งามอัครกุล” ผู้ถือหุ้นอันดับ 2, “ชัยพร จารุจันทนากุล” ผู้ถือหุ้นอันดับ 3, “ศุภลักษณ์ แพบรรยง” ผู้ถือหุ้นอันดับ 7, และ “กิ่งกมล เกษมวิลาศ” ผู้ถือหุ้นอันดับ 10 ที่จริง “กัญญา” เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 3 ของ DV8 ในสัดส่วน 7.20% อยู่แล้ว ล่าสุดเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พ่วงด้วยประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการ ที่น่าสนใจ หาก “กัญญา” ใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ DV8-W2 ในอัตราใช้สิทธิ 1 วอร์แรนด์ ต่อ 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิหน่วยละ 0.80 บาท ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 17 ก.ค. 2568 โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายในวันที่ 16 ก.ค. 2568 นี้ นั่นเท่ากับว่า “กัญญา” จะขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที แต่อีกนั่นแหละ...การมาของ “กัญญา” ก็ยังไม่ตอบโจทย์การวิ่งของ DV8 อยู่ดี... แล้วเท่าที่ดูโปรไฟล์ของ “กัญญา” ก็ยังไม่เห็นนะ เลยไม่รู้ว่าจะงัดกลยุทธ์ใดมากู้ชีพ DV8 จากบริษัทที่ไม่แสวงหากำไร...เนื่องจากขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ให้กลับมามีกำไรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเสียที...ขณะที่งบไตรมาส 1/2568 มีตัวเลขขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 20.14 ล้านบาท มากกว่าไตรมาส 1/2567 ที่ขาดทุน 8.15 ล้านบาท DV8 จึงเป็นหุ้นร้อนที่ไม่ควรเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยประการทั้งปวง... หากพลาดพลั้งขึ้นมา...จะมาร้องแรกแหกกระเชอภายหลังไม่ได้นะ...เพราะเราเตือนคุณแล้ว ...อิ อิ อิ...