ข่าวอสังหาริมทรัพย์

นายสุริยา วงศ์สิทธิชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ พร้อมด้วย นายกวิน อนันต์พัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MMM ผู้นำด้านตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การให้บริการที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาด แก่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาฯ และซื้อขายอสังหาฯ แบบครบวงจร ลงนามสัญญาเพื่อบริหารงานขายโครงการ ร่วมกับ นางเรณู โท้มะวงษ์ และ นายบุญช่วย แสนดี กรรมการ บริษัท ทรัพย์พล กรุ๊ป จำกัด เพื่อให้ MMM เข้าไปบริหารงานขายโครงการดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่ารวม 1,195 ล้านบาท จำนวน 217 ยูนิต ทั้งนี้ แบ่งการดำเนินงานเป็น 5 เฟส โดยบริษัท MMM จะทยอยเข้าทำสัญญาและวางหลักประกันเป็นรายเฟส โดยเริ่มจากเฟสแรก จำนวน 31 ยูนิต มูลค่าประมาณ 170 ล้านบาท หลังจากที่ MMM ประสบความสำเร็จในการเข้าบริหารโครงการให้กับ“ทรัพย์พล กรุ๊ป” ไปแล้ว 1 โครงการในช่วงก่อนหน้านี้ และจากความสำเร็จดังกล่าวส่งผลให้ทาง “ทรัพย์พล กรุ๊ป” ให้ความไว้วางใจต่อ MMM จึงทำให้เกิดความร่วมมือในการเซ็นสัญญาในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นโครงการที่ 2 ที่ MMM ได้เข้าไปบริหารการขาย ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามกลยุทธ์ที่บริษัทฯ วางไว้ MMM มองว่า โครงการในพื้นที่รังสิต คลอง9 สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ได้ครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวใหญ่ หรือเริ่มต้นชีวิตคู่ เพราะมีแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย เติมเต็มความสุขได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมองว่า ดีมานด์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ โซนรังสิต คลอง 9 ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และเป็นความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบ เนื่องจากการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน และการคมนาคมที่สะดวกขึ้น เช่น ทางด่วนโทลล์เวย์ และถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองสะดวกขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มองว่า ภายหลังจากการลงนามสัญญาแล้วเสร็จ บริษัทฯ สามารถจัดโปรโมทการขายในโซนดังกล่าวได้ทันที และคาดว่าจะสามารถจำหน่ายและรับรู้รายได้จากโครงการในเฟสแรกได้ทั้งหมดภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 ขณะที่รายได้จากเฟสที่เหลือคาดว่าจะทยอยรับรู้ได้ภายในปี 2570 นอกจากนี้ นายสุริยา ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงโครงสุดท้ายของปีนี้ MMM ยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์ในการเร่งยอดขายทรัพย์แนวราบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและครอบคลุมทุกประเภท โดยล่าสุดบริษัทฯ มีพอร์ตอสังหาริมทรัพย์รวมทั้งหมด 32 โครงการ โดยแยกเป็นโครงการแนวสูง 23 โครงการ และโครงการแนวราบ 9 โครงการ และคาดว่าจะมีโอกาสขยายไปสู่ทรัพย์ โครงการแนวสูงเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาอีก 1–2 โครงการ