งานวิจัยตลาดทุน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เดินหน้าโครงการสนับสนุนทุนวิจัยด้านตลาดทุน ประจำปี 2567/2568 อย่างต่อเนื่อง โดยมอบทุนวิจัยและรางวัล Best Paper Award ให้กับนิสิตนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ เพื่อส่งเสริมการสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่และสนับสนุนการประยุกต์องค์ความรู้จากภาคการศึกษาสู่การใช้งานจริงในภาคธุรกิจตลาดทุนไทย นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวดำเนินต่อเนื่องมากว่า 12 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพงานวิจัยด้านตลาดทุนให้สามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจได้จริง ผ่านความร่วมมือระหว่างภาควิชาการและภาคตลาดทุน โดยปีนี้มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วม 15 แห่ง ส่งผลงานวิจัยรวม 26 หัวข้อ แบ่งออกเป็น 3 สาขาหลัก ได้แก่ Market Quality Track, ESG Track และ Technology and Interdisciplinary Track ซึ่งสะท้อนความหลากหลายและทันสมัยของโจทย์วิจัยที่สอดคล้องกับทิศทางของตลาดทุนโลกในปัจจุบัน ผลงานที่ได้รับรางวัล Best Paper Award จากการพิจารณาโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในตลาดทุนและสถาบันการศึกษา มีจำนวน 3 รางวัล ได้แก่ • Market Quality Track: นางสาวธัญวรัตม์ ลิ้มวัฒนานุกูล จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง “Does Observability of Downgrade Risk Matter for Corporate Investment?” • ESG Track: นายสรุจ ตันมีสุข จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เรื่อง “Linking Public ESG Disclosure to Financial Performance and Stock Returns: A Hybrid Analysis of Thailand's SET100” • Technology - Interdisciplinary Track: นายธนกร โฆษวณิชการ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เรื่อง “NLP-Driven Analysis of News and Public Statements for Corporate Bond Default Risk Assessment in Thailand” นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมอบรางวัล Young Rising Star Award สำหรับนิสิตระดับปริญญาตรีที่มีผลงานโดดเด่นอีก 2 รายการ เพื่อส่งเสริมความสามารถของนักวิจัยรุ่นเยาว์ให้ก้าวสู่เวทีวิชาการและภาคปฏิบัติอย่างมั่นคง ทั้งนี้ รายละเอียดผลงานวิจัยทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th สำหรับโครงการสนับสนุนทุนวิจัยด้านตลาดทุนจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 โดยความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงตลาดทุนไทย ถือเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์จากภาคธุรกิจสู่ภาควิชาการ และจากภาคการศึกษาสู่การประยุกต์ใช้งานจริง ช่วยยกระดับมาตรฐานงานวิจัยไทยให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายและพัฒนาตลาดทุนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน