จุฬาลงกรณ์

รศ.ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว Preeda Akara ให้กำลังใจ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ หลังจากถูก บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โดย รศ.ดร.ปรีดา โพสต์ข้อความระบุว่า “เนื่องจากติดภารกิจที่ต่างประเทศ สิ่งที่ควรเขียนถึงก็เลยยังไม่ได้เขียน แต่โดยส่วนตัวแล้วได้ส่งข้อความหาอาจารย์ขวัญ เพื่อส่งกำลังใจไปให้ทันทีที่ทราบข่าว รศ.ดร.ปรีดา ยังระบุว่า ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต เป็นกรรมการ กสทช. ที่ไม่ได้มีการเมืองหนุนหลัง แต่ทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคมอย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมาคณะนิเทศศาสตร์ และตัวเองในฐานะคณบดีก็ได้ร่วมมือกับอาจารย์อยู่บางเรื่อง ด้วยเป้าหมายคือการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ เราให้กำลังใจอาจารย์ทุกครั้งที่พบกัน ด้วยรู้ว่าภารกิจของอาจารย์นั้นหนักหนาแสนเข็ญ และต้องต่อสู้กับอำนาจบางอย่าง โดยมีผลประโยชน์สาธารณะเป็นเดิมพัน สถานการณ์ใน กสทช. เป็นอย่างไรก็รู้กันดีอยู่ ไม่ว่าจะกรณีใช้เงินสนับสนุนเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกก็ดี การควบรวมกิจการระหว่างทรูกับดีแทคก็ดี จุดยืนของอาจารย์เป็นที่ชัดเจนหนักแน่นเสมอมา เมื่อมีผู้ท้าทายอำนาจ สูตรสำเร็จที่อำนาจกระทำก็คือเฆี่ยนโบยคนผู้นั้นด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะวิธีทางกฎหมายให้สงบปากสงบคำ หรือการทำให้โดดเดี่ยวเพื่อจะได้ไม่สามารถขัดขวางอำนาจได้อีก นอกเหนือจากการฟ้องร้องแล้ว หลังจากนี้เมื่อมีคดีใดที่เกี่ยวข้องกับทรูที่ กสทช. จะต้องพิจารณา อาจารย์พิรงรองจะถูกร้องว่ามีอคติต่อทรู และขอมิให้อยู่ร่วมพิจารณาในวาระเหล่านั้น หลังจากนั้นการพิจารณาก็จะราบรื่นดุจแพรไหม.... คนจำนวนมากมักค่อนขอดว่านักวิชาการนั้นดีแต่ทำงานบนหอคอยงาช้าง ไม่สนความเป็นไปที่แท้จริงของสังคม แต่สิ่งที่อาจารย์ขวัญทำนั้น ได้พิสูจน์แล้วว่าวิชาการสามารถรับใช้สังคมได้อย่างไร อาจารย์ขวัญจึงเป็นความภาคภูมิใจของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” สำหรับ ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต ที่ผ่านมา เป็นศาสตราจารย์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเป็นอาจารย์ประจําภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รองอธิการบดีด้านการสื่อสารบริการสังคมและพันธกิจสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2559 ถึง พ.ศ. 2563