ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์

การบินไทยภาคอวตาร แจ้งเกิดใหม่ได้อย่างแจ่มแจ๋วมาก แจ่มแจ๋วทั้งผลประกอบการ และแจ่มแจ๋วทั้งราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง กลางพ.ค. 2563 บริษัทมีมูลหนี้ที่เจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระรวมทั้งสิ้น 410,141 ล้านบาท ผ่านกระบวนการทั้งแปลงหนี้เป็นทุน และการเพิ่มทุนแบบ RO แต่หลังจบกระบวนการฟื้นฟูธุรกิจที่ศาลล้มละลายกลางได้อนุมัติให้ THAI ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเมื่อ 16 มิ.ย. 68 บริษัทมีภาระหนี้คงเหลือเพียง 1.9 แสนล้านบาท ผลการดำเนินงาน ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 12,124..231 ล้านบาท รวมงวดครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) มีกำไรสุทธิ 21,955.978 ล้านบาท และมีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร 21,777.59 ล้านบาท ชีวิตใหม่ การบินไทย พร้อมอนาคตที่สดใสเกิดขึ้นแล้วจริง! ด้านราคาหุ้น ก็ได้รับการตอบสนองจากตลาดด้วยดี นับแต่กลับเข้าซื้อขายใหม่วันแรก เมื่อ 4 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา ทำราคาปิดที่ 10.50 บาท จากราคาปิดครั้งสุดท้ายก่อนพักการซื้อขายยาวที่ 3.32 บาทเมื่อ 5 ปีก่อน หุ้น THAI รอบใหม่ เคยทำราคาปิดสูงสุดเมื่อ 14 ส.ค.ถึง 17.80 บาทเสียด้วยซ้ำ เจ้าหนี้ที่ยอมแปลงหนี้เป็นทุนในราคาแค่ 2.5452 บาท/หุ้นก็แฮปปี้ แม้จะมีเงื่อนไขห้ามขายในระยะเวลา 1 ปี แต่ช่วง 6 เดือน ก็สามารถขายหุ้นได้จำนวน 25% ด้วยต้นทุนกับราคาในกระดานที่สูงกว่ากันมาก ส่วนผู้ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบ RO (Right offering) ราคา 4.48 บาท ก็ยิ่งแฮปปี้ เพราะขายในตลาดได้เลย รวมทั้งยังสามารถนำหุ้นเก่าที่มีต้นทุนต่ำ ออกมาขายได้ด้วย ความสำเร็จเป็นผลงานมาจากแผนฟื้นฟูกิจการ และผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งพนักงานการบินไทยทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีข่าวความขัดแย้งภายในบอร์ดการบินไทย ที่มีการกล่าวหากันว่า การเมืองและระบบข้าราชการประจำ จะกลับเข้ามาครอบงำการบินไทยให้กลับไปสู่สภาพเดิมที่ล่มสลายอีก โดยส่งคนของตัวเองเข้ามาในบอร์บอร์ดใหม่ ราคาหุ้น THAI เริ่มไซด์เวย์ดาวน์ และหลุดระดับ 10 บาทตั้งแต่ 20 ต.ค.เป็นต้นมา ฝ่ายคัดค้าน ก็คงจะมาจากบอร์ดฝ่ายฟื้นฟูกิจการ ซึ่งผู้มีบทบาทสำคัญก็คงจะเป็นดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์กับชาญศิลป์ ตรีนุชกรและฝ่ายดีดีการบินไทย ซึ่งตอนนี้คงจะลำบากใจน่าดู ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง ก็คงจะเป็นผู้แทนจากกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เกือบ 40% โดยมีปลัดกระทรวงการคลัง ลวรณ แสงสนิทเป็นประธานบอร์ด และตัวแทนจากส่วนราชการต่าง ๆ รวมทั้งตัวแทนจากภาคเอกชน ข้อกล่าวหาว่า การจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เป็นการประชุมสามัญซ้ำซ้อนจากที่จัดประชุมไปแล้วเมื่อ 18 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา ดูเหมือนมีเจตนาแอบแฝงที่ฝ่ายคุมอำนาจจะปรับเปลี่ยนบอร์ดที่ตนไม่ต้องการออกไปมากกว่า จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ประชุมสามัญฯ ซ้ำซ้อนอะไร เพราะการประชุม 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ในหนังสือที่ดีดีชาย เอี่ยมศิริ ระบุชัดเป็นประชุมวิสามัญฯ ไม่รู้ฝ่ายปล่อยข่าวเข้าใจผิดหรือจงใจแพร่ข่าวเท็จกันแน่ ส่วนเรื่อง การเมืองและข้าราชการประจำ จะครอบงำ ก็เป็นเพียงความกังวล ยังไม่มีหลักฐานใดมายืนยัน แต่เท่าที่ดูรายชื่อบอร์ดใหม่ที่ได้รับการเสนอชื่อ ก็มีตัวแทนจากภาคเอกชนหลายคนที่ไม่มีสังกัดทางการเมืองนี่ ขณะเดียวกันก็มีเสียงตอบโต้ฝ่ายข้อกล่าวหาเช่นกันว่า ที่ไม่อยากลุกจากเก้าอี้เป็นเพราะห่วงใยเรื่องจะมีการเซ็นสัญญาเช่าเครื่องบินในปีหน้าเป็นหลายหมื่นล้านบาทหรือเปล่า การถกเถียงทะเลาะเพื่อประโยชน์ส่วนตน ไม่เป็นผลดีกับราคาหุ้นและกิจการการบินไทยเอาเสียเลย