ตลาดหลักทรัพย์แห่งอินเดีย

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางและหน่วยงานกำกับดูแลตลาด มีการประกาศมาตรการหลายอย่าง เพื่อยึดเหนี่ยวการมีส่วนร่วมของต่างชาติ และส่งเสริมการให้สินเชื่อ พร้อมช่องทางรวดเร็วขึ้นสำหรับบริษัทต่าง ๆ ในการเข้าจดทะเบียน และกองทุนต่างประเทศและธนาคารต่างชาติหลายแห่งในการเข้าร่วม รวมถึงกฎระเบียบที่อนุญาตให้บริษัทกู้ยืมง่ายขึ้นและธนาคารต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเงินทุนสำหรับการควบรวมกิจการ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบและตลาดทุน 6 ราย ที่มีความรู้เรื่องดังกล่าว ระบุว่า การผ่อนคลายกฎระเบียบด้านอื่น ๆ ภาคการเงิน มีมูลค่า 2.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของอินเดีย กำลังอยู่ระหว่างการหารือ และมีผลบังคับใช้ภายในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้แก่การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในตลาดทุนของนักลงทุนรายย่อย ในเมืองขนาดเล็กและ การผ่อนคลายกฎระเบียบด้านธนาคารเพิ่มมากขึ้น ‘การยกเลิกข้อจำกัด’ ที่มีมาหลายทศวรรษนี้เกิดขึ้นช่วงที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผลักดันให้มีการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น หลังจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อการเติบโตของอินเดีย จากมาตรการภาษีศุลกากร ที่เข้มงวดของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต่างชาติเสียขวัญ อย่างไรก็ตาม “ธนาคารกลาง” ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยโฆษกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งอินเดีย (SEBI) ได้ตอบคำถามว่า ธนาคารได้นำเสนอ “การปฏิรูปครั้งใหญ่ 11 ประการ” สำหรับนักลงทุนต่างชาติ เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงอินเดียและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกของอินเดีย โดย Srini Srinivasan กรรมการผู้จัดการบริษัท Kotak Alternate Asset Managers ที่บริหารสินทรัพย์มูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กล่าวว่า “มีการมุ่งให้ความสำคัญกับความสะดวก และความง่ายในการทำธุรกิจมากขึ้น และกฎระเบียบที่เข้มงวดซึ่งขัดขวางในภาคการเงินกำลังได้รับการแก้ไข” โดยปีนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นอินเดีย เกือบ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมือปี 2567 และ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 การเทขายครั้งนี้ ทำให้อินเดียกลายเป็นตลาดเอเชียที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในแง่การถอนพอร์ตลงทุนจากต่างประเทศ การผ่อนคลายนโยบายการเงิน อย่างค่อยเป็นค่อยไปในอินเดีย สอดคล้องกับมาตรการริเริ่มของจีนที่เริ่มมีขึ้น ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รวมถึงการเปิดตลาดออปชั่นหุ้นให้นักลงทุนต่างชาติและการขยายการเข้าถึงตลาดซื้อคืนพันธบัตรของต่างชาติ ขณะที่ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ประมาณการว่าเศรษฐกิจอินเดียจะเติบโต 6.8% ช่วงปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2569 เทียบกับ 6.5% ในปีงบประมาณก่อนหน้า แต่ต่ำกว่าเป้าหมายการเติบโตธนาคารกลางตั้งไว้ประมาณ 8% การผ่อนคลายกฎระเบียบและแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง เป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนทั้งหลายยังมองในแง่บวกต่ออินเดีย..