ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย

นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ หรือ “มาดามแป้ง” เปิดเผยภายหลังการประชุมสภากรรมการสมาคมฯ วันนี้ (6 มิถุนายน 2568) ว่า สมาคมฯ ได้ลงนามมอบสิทธิ์บริหารลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลไทยทุกระดับ ให้แก่กลุ่มพันธมิตรเอกชน ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เป็นระยะเวลา 4 ปี เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 ถึง 2028/29 พร้อมสิทธิ์ขยายเพิ่มเติมอีก 2 ปีตามเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกัน สำหรับเงื่อนไขของสัญญาดังกล่าว มีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญา โดยแบ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์รวม 1,400 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 350 ล้านบาท และค่าผลิตสัญญาณถ่ายทอดสดที่ผู้รับสิทธิ์ต้องรับผิดชอบไม่น้อยกว่าปีละ 150 ล้านบาท รวมตลอดสัญญาไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท ครอบคลุมรายการฟุตบอลระดับประเทศ อาทิ ไทยลีก 1, ไทยลีก 2, ไทยลีก 3, ช้าง เอฟเอ คัพ, รีโว่ คัพ, ลีกเยาวชน U21 รวมถึงฟุตบอลหญิงลีก 1 และ 2 ขณะเดียวกัน สภากรรมการสมาคมฯ ยังมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของนายกสมาคมฯ ในการจัดสรร “เงินสนับสนุนแบบให้เปล่า” แก่สโมสรสมาชิกทุกระดับลีก โดยเริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 โดย ไทยลีก 1 จะได้รับทีมละ 15 ล้านบาท (รวม 240 ล้านบาท), ไทยลีก 2 ทีมละ 4 ล้านบาท (รวม 72 ล้านบาท) และ ไทยลีก 3 ทีมละ 1.25 ล้านบาท (รวม 86.5 ล้านบาท) คิดเป็นยอดรวมเงินสนับสนุนสูงถึง 398.5 ล้านบาทต่อฤดูกาล ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลไทย นอกจากนี้ JAS ยังได้รับสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ เอฟเอ คัพ อย่างเป็นทางการใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย, กัมพูชา และลาว เป็นระยะเวลา 6 ฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2025/26 ถึง 2030/31 ซึ่งการผนึกกำลังของ 3 กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ AIS–GULF–JAS ในครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการปูทางไปสู่การยกระดับมาตรฐานของวงการฟุตบอลไทยในทุกมิติ ทั้งด้านการถ่ายทอดสด เทคโนโลยีสนับสนุนทีม และการสร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้แก่สโมสรทั่วประเทศอย่างยั่งยืน