ทุ่งสุขลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ (26 ก.ค.) เวลา 12:10 น. โรงกลั่นน้ำมันของ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC เกิดเหตุเพลิงไหม้ในหน่วยกลั่นบรรยากาศ ของหอกลั่นที่ 2 (ASP2 กำลังการผลิต 95,000 บาร์เรลต่อวัน ราว 55% ของกำลังการผลิตทั้งหมด 174,000 บาร์เรลต่อวัน) โดยไม่ได้ไหม้ที่คลังน้ำมัน ทั้งนี้ สามารถคุมเพลิงได้เมื่อเวลา 12:35 น. มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ส่งผลให้หน่วย ASP2 ต้องหยุดการผลิตชั่วคราวประมาณ 3-7 วัน เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ในขณะที่หน่วย ASP1 ยังคงผลิตได้ตามปกติ โดย BSRC มีประกันคุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สิน (โรงกลั่นและคลัง) ไม่เกิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อครั้ง พร้อมทั้งประกันการหยุดชะงักทางธุรกิจ (Business Interruption) 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Third-party Liability) 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ในส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้และความเสียหายที่แท้จริงยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี กำกัด (มหาชน) ระบุว่าข่าวเหตุเพลิงไหม้ ASP2 ของ BSRC อาจส่งผลเชิงลบและทำให้ตลาดกังวลต่อระยะเวลาที่ไม่ชัดเจนของผลกระทบต่อการผลิต เบื้องต้นประเมินว่า การหยุดผลิตทุก ๆ 7 วัน จะกระทบปริมาณการผลิตในไตรมาส 3 ปี 2568 ลดลงราว 5% (ก่อนเกิดเหตุการณ์คาดการณ์กำลังผลิตที่ 155,000 บาร์เรลต่อวัน) และ กระทบกำไรประมาณ 90-125 ล้านบาท หรือลดลงไปราว 3-4% ของกำไรปกติที่คาดการณ์ไว้สำหรับปี 2568 ของ BSRC ประมาณ 3,075 ล้านบาท รวมถึงกระทบกำไรปกติของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ลดลงประมาณ 1-2% ของกำไรปกติที่คาดการณ์ไว้สำหรับปี 2568 ประมาณ 5,473 ล้านบาท นักวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น BCP โดยแนะนำให้รอดูผลการตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ของ BSRC ให้ชัดเจนก่อนการลงทุน อย่างไรก็ตาม หากราคาหุ้นลดลงจากความกังวลมากเกินไปราว 4.50 บาท อาจเป็นจุดซื้อที่ดี โดยคาดการณ์ว่าระดับราคานี้สะท้อนผลกระทบในกรณีที่แย่ที่สุด ซึ่งคือการหยุดผลิตนานกว่า 60 วัน เนื่องจากประกัน Business Interruption มีเงื่อนไขหักลดหย่อน 60 วันแรก