นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ ( 30 มิ.ย.68) ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารปรับตัวขึ้น ณ เวลา 10:22 น. รับข่าวผลประมูลคลื่น กสทช. นำโดย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC อยู่ที่ระดับ 277 บาท บวก 7.00 บาท หรือ 2.59% สูงสุดที่ระดับ 280.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 276.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,016.39 ล้านบาท บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE อยู่ที่ระดับ 11.30 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.75% สูงสุดที่ระดับ 11.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 571.53 ล้านบาท โดยวานนี้ 29 มิ.ย.68 นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ผลการประมูลคลื่นความถี่ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่ย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz เริ่มต้นเมื่อเวลา 9.30 น.วันที่ 29 มิถุนายน 2568 และสิ้นสุดลง ณ เวลา 10.48 น.วันเดียวกัน มีราคาประมูลรวมทั้งสิ้น 41,273,960,346 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.) ผลการประมูลคลื่นความถี่ (กลุ่มที่ 1) ย่าน 850 MHz ไม่มีผู้เข้าร่วมการประมูล 2.) ผลการประมูลคลื่นความถี่ (กลุ่มที่ 2) มีรอบในการประมูล 2 รอบ ย่าน 2100 MHz มีผู้ชนะการประมูล 1 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ได้รับการจัดสรรชุดคลื่นความถี่จำนวน 3 ชุด ในช่วงความถี่ 1965-1980 MHz คู่กับ 2155-2170 MHz โดยมีราคาสุดท้าย 14,850,000,010 บาท ขณะที่ย่าน 2300 MHz มีผู้ชนะการประมูล 1 ราย ได้แก่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ได้รับการจัดสรรชุดคลื่นความถี่จำนวน 7 ชุด ในช่วงความถี่ 2300-2370 MHz โดยมีราคาสุดท้าย 21,770,000,168 บาท 3.) ผลการประมูลคลื่นความถี่กลุ่มที่ 3 ย่าน 1500 MHz มีรอบในการประมูล 1 รอบ มีผู้ชนะการประมูล 1 ราย ได้แก่ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ได้รับการจัดสรรชุดคลื่นความถี่จำนวน 4 ชุด ในช่วงความถี่ 1452-1472 MHz โดยมีราคาสุดท้าย 4,653,960,168 บาท ขณะที่ นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC กล่าวว่า บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในเครือ ADVANC ชนะการประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz จำนวน 3 ชุด รวม 30 MHz ในราคา 14,850 ล้านบาท ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศอย่างต่อเนื่อง “เรายินดีที่ชนะการประมูลครั้งนี้ ที่ได้คลื่นความถี่ที่ต้องการและสามารถใช้งานได้ทันทีในปัจจุบัน ในราคาที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในระยะยาว การได้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2100 MHz จะทำให้ AIS สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เครือข่าย 5G ของ AIS นอกจากมีความครอบคลุมที่ดีแล้ว ยังเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า ทั้งคุณภาพ ความเร็ว และสามารถรองรับเทคโนโลยีต่าง ๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จนี้ยังตอกย้ำถึงพันธกิจของเรา ในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและยั่งยืน” นายสมชัย กล่าว ทั้งนี้ คลื่นความถี่ 2100 MHz จัดอยู่ในกลุ่มคลื่นความถี่ย่านกลาง (Mid Band) เป็นช่วงความถี่สำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการให้บริการที่ครอบคลุม รองรับปริมาณการใช้งานที่หนาแน่น โดยเฉพาะในเทคโนโลยี 4G และ 5G การประมูลครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ AIS ในการลงทุนพัฒนาเครือข่ายและนวัตกรรม โดยมีแผนพร้อมนำคลื่นที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทันที ทั้งในเชิงการให้บริการ การขยายเครือข่าย และการต่อยอดนวัตกรรม เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเท่าเทียม พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป อย่างไรก็ตาม กสทช. จะมีการประชุมเพื่อมีมติรับรองผลการประมูลต่อไป ด้าน นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม TRUE เปิดเผยว่า ผลการประมูลคลื่นความถี่ครั้งนี้เป็นไปตามความสำคัญของการลงทุนเชิงกลยุทธ์ และเป้าหมายการจัดการคลื่นความถี่ที่มุ่งรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี 5G, AI IoT และเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทย ยกระดับคุณภาพโครงข่ายเพื่อให้บริการลูกค้าทั่วประเทศให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด รองรับภารกิจการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรธุรกิจและส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระยะยาว ในส่วนของคลื่น 2300 MHz จะนำมาให้บริการได้ทั้ง 5G และ 4G โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่ทรูมีอยู่แล้ว เพื่อส่งมอบความเร็ว ความครอบคลุม และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม พร้อมทั้งสามารถรวมกับคลื่นย่านอื่นเพื่อให้บริการที่เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาเพิ่มศักยภาพ 5G ของคลื่น 2600 MHz ให้เป็น 5G เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับคลื่น 1500 MHz เป็นคลื่นใหม่เหมาะสำหรับการพัฒนาเครือข่ายสู่อนาคต มีจุดเด่นด้านการเสริมประสิทธิภาพเทคโนโลยี 5G และต่อยอดการใช้งาน 4G สามารถนำมาใช้งาน เพื่อเพิ่มความจุของเครือข่ายและเพิ่มความครอบคลุมในช่วงดาวน์โหลด รองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่หนาแน่นและนอกเมือง โดยสามารถนำคลื่น 1500 MHz รวมกับคลื่นอื่นหรือเทคโนโลยี Carrier Aggregation ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นแม้อยู่ในพื้นที่แออัด มีสัญญาณเสถียรและลดปัญหาเน็ตช้าในช่วงเวลาพีก แหล่งข่าวจากวงการสื่อสารโทรคมนาคม กล่าวกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่าการประมูลคลื่นความถี่โทรคมนาคมล่าสุดสิ้นสุดลงอย่างราบรื่น โดยมีบรรยากาศ "Win-Win" ระหว่างผู้เข้าร่วมหลัก โดยเฉพาะ AIS ที่ได้รับคลื่นความถี่ 2100 MHzในราคาที่ประหยัดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้มีการประเมินว่า สามารถประหยัดต้นทุนได้ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี จากต้นทุนปัจจุบัน ขณะที่ TRUE ได้รับประโยชน์โดยประหยัดต้นทุนเมื่อเทียบกับราคาค่าเช่าในปัจจุบันได้ถึง 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี สำหรับการประมูลครั้งนี้ มีลักษณะพิเศษ คือ ผู้เข้าร่วมทั้งสองรายต่างหลีกเลี่ยงการแข่งขันโดยตรง ส่งผลให้ราคาสุดท้ายไม่สูงเกินไป และทุกฝ่ายพึงพอใจ “ผู้บริหารจากทั้ง 2 ฝ่าย คือ AIS กับ TRUE แฮปปี้มากและถือว่าการประมูลครั้งนี้ ‘วิน-วิน’ อย่างแท้จริง” แหล่งข่าวกล่าว อย่างไรก็ตาม การประมูลไม่ได้เป็นไปอย่างสงบทั้งหมด โดยมีการประท้วงเกิดขึ้น ด้านนอกสถานที่ประมูลตลอดระยะเวลา 4 ชั่วโมง ดังนั้นการประมูลครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ที่มีทั้งโอกาส ประโยชน์ และเสียงสะท้อนให้จับตามองต่อไป นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการประมูลครั้งนี้ถือว่าเป็นบวกของทั้งสองค่าย ดังนั้นจึงเชื่อว่าราคาหุ้นในวันนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งคู่ โดยให้ราคาเป้าหมาย TRUE ที่ 15.50 บาท ADVANC ราคาเป้าหมาย 312 บาท โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าผลการประมูลคลื่นล่าสุดเป็น sentiment บวกต่อทั้ง ADVANC และ TRUE จากการแข่งขันที่ไม่รุนแรงกว่าคาด ช่วยลดความกังวลเรื่องต้นทุนใบอนุญาตที่อาจสูงเกินไป อย่างไรก็ตาม อัพไซด์ต่อประมาณการกำไร TRUE อาจต่ำกว่าคาดเล็กน้อย เนื่องจาก TRUE ตัดสินใจประมูลคลื่น 1500 MHz เพิ่มเติม (จากเดิมคาดว่าจะเข้าประมูลเฉพาะคลื่น 2300 MHz เท่านั้น) อาจทำให้ต้นทุนรวมสูงขึ้นกว่าที่คาดเล็กน้อย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กสทช. ได้จัดการประมูลคลื่นความถี่รวม 4 ย่าน ได้แก่ 850MHz, 1500MHz, 2100MHz และ 2300MHz โดยมีผู้เข้าร่วมประมูลที่มีสิทธิ์เพียงสองราย คือ ADVANC และ TRUE โดยผลการประมูลตามรายงานจากฐานเศรษฐกิจ ADVANC ชนะการประมูลคลื่น 2100MHz ทั้ง 3 บล็อก โดยราคาบล็อกละ 4.95 พันล้านบาท รวมเป็นมูลค่า 14.95 พันล้านบาท ขณะที่ TRUE ชนะการประมูลคลื่น 1500MHz จำนวน 4 บล็อก ที่ราคาบล็อกละ 1.16 พันล้านบาท และคลื่น 2300MHz จำนวน 7 บล็อก ที่ราคาบล็อกละ 3.11 พันล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมด 26.42 พันล้านบาท สำหรับการวิเคราะห์ ราคาคลื่น 2100MHz ที่ ADVANC จ่าย ถือว่าอยู่ในระดับที่เราคาดการณ์ไว้ คือสูงกว่าราคาตั้งต้นประมาณ 10% ราคาคลื่น 2300MHz ที่ TRUE ชนะประมูล ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ถึง 37% การที่ TRUE ตัดสินใจเข้าประมูลคลื่น 1500MHz ถือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของเรา ADVANC ได้คลื่นเพิ่ม 30MHz ทำให้ถือคลื่น mid-band รวม 200MHz เท่าเดิม TRUE ได้คลื่นเพิ่มมากถึง 90MHz ทำให้ถือคลื่น mid-band รวมสูงถึง 280MHz ซึ่งมากกว่าที่เราคาดไว้มาก ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยมองผลการประมูลในภาพรวมเป็นบวก การแข่งขันไม่ได้รุนแรงเท่าที่คาดไว้ เนื่องจาก ADVANC ยังคงความมีวินัยทางการเงิน โดยเลือกเข้าประมูลเฉพาะคลื่น 2100MHz ค่าธรรมเนียมคลื่นรวมทั้งหมดอยู่ที่ 41.27 พันล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 16.5% ADVANC จะสามารถประหยัดต้นทุนคลื่นในปี 2569 ได้ราว 2.9 พันล้านบาท มากกว่าที่เราคาดถึง 51% อย่างไรก็ดี การที่ TRUE เลือกเข้าประมูลทั้งคลื่น 1500MHz และ 2300MHz นั้นน่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงกลยุทธ์การเร่งสะสมคลื่น mid-band ให้มากที่สุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อคุณภาพการให้บริการ และความสามารถในการแข่งขันในช่วงหลายปีข้างหน้า จนกว่าคลื่น 3500MHz จะเปิดให้ใช้งานในช่วงปี 2572 หรือ 2573 โดยคำแนะนำการลงทุน ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงมุมมอง “บวก” ต่อกลุ่มโทรคมนาคม โดยเลือก TRUE แนะนำ Outperform, ราคาเป้าหมาย 13.16 บาท เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มในช่วงนี้ ปัจจัยบวกที่อาจทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในระยะสั้น ได้แก่ผลประมูลที่ออกมาดีกว่าคาด, การประหยัดต้นทุนคลื่นในระดับมาก และ โอกาสในการบริหารทุนที่เชิงรุกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังชื่นชอบ TRUE มากกว่า ADVANC ที่ให้คำแนะนำ Outperform, ราคาเป้าหมาย 306.06 บาท เนื่องจาก TRUE ได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนคลื่นมากกว่า จึงมีแนวโน้มกำไรโตดีกว่า TRUE ถือครองคลื่น mid-band มากกว่าที่ต้นทุนไม่สูงนัก ซึ่งช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว