ประกันภัยต่อไซเบอร์

นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568) บริษัทฯ มีรายได้รวม 147.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.78% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน มีรายได้รวม 141.01 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 53.19 ล้านบาท สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้รายได้ปรับเพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) และธุรกิจนายหน้าประภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) ขณะที่ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2568 มีรายได้รวม 65.31 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20.18 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.175 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 40.25 ล้านบาท และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 5 กันยายน 2568 “ผลงานงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ TQR ยังสามารถทำผลงานออกมาได้ดี จากการปรับกลยุทธ์การให้บริการ คิดค้น ออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากที่สุด และผู้บริโภคมีความต้องการทำประกันภัย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ประกอบกับ บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยี AI มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและประกันภัยต่ออย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นได้ตามนโยบายของบริษัทฯ” นายชนะพันธุ์ กล่าว ด้าน นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQR กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 5-10% ด้วยการเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและประกันภัยต่อ ร่วมกับบริษัทประกันภัยชั้นนำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประกันภัยต่อ Alternative ทั้ง ประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident and Health), ประกันภัยต่อความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร (Directors and Officers), ประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง (Political Violence), ประกันภัยต่อที่เกี่ยวข้องกับ ESG เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ ประกันภัยต่อไซเบอร์ (Cyber) โดยมีความพร้อมในการให้บริการทั้งในรูปแบบองค์กร (Corporate Cyber) และส่วนบุคคล (Personal Cyber) ในส่วนของ TQM ร่วมกันพัฒนาประกันภัยและประกันภัยต่อที่อยู่อาศัย ขณะที่ บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด บริษัทร่วมทุน โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เพื่อประกอบธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ มุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มองค์กร ที่ต้องการยกระดับระบบความมั่นคงปลอดภัยทางข้อมูล โดยนำเทคโนโลยี AI มาพัฒนาปรับปรุงขั้นตอนในการทำงาน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด