ประชาคมโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ก.ค. 68) เวลา 11:03 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้แสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังการปะทะเกิดขึ้นว่า รัฐบาลและกองทัพมีแนวทางในการดูแลประชาชนและรักษาสันติภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นจุดยืนหลักที่เราย้ำมาตลอด “จนในที่สุดฝ่ายกัมพูชาเริ่มยิงก่อน แต่ว่าก็เหมือนเดิมเขาก็จะพูดว่าฝั่งเรายิงก่อน” นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อว่า ในยุคสมัยปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายในการยืนยันข้อเท็จจริง และโลกเองก็สามารถเห็นได้ชัดเจน ซึ่งความน่าเชื่อถือของกัมพูชาจะลดลงไปเรื่อย ๆ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพได้เตรียมความพร้อมอย่างดีในการดูแลประชาชนตั้งแต่เริ่มต้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดในการผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้คือความสามัคคีของคนในชาติ ขณะเดียวกัน รัฐบาลและกองทัพได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องสูญเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ “ทุกคนที่ประสานอยู่หน้างานอดทนมากต่อสิ่งยั่วยุทั้งหลาย ต่อการที่เข้าไปเจรจาแล้วแต่ไม่เป็นไปตามที่พูดเลย เราก็ไม่เคยจะให้ข่าวหรือว่าอะไรที่ไปทำร้ายเขาเลย ซึ่งถึงจุดนี้ดิฉันภูมิใจ แล้วก็มั่นใจในรัฐบาลและกองทัพว่า ได้ทำทุกอย่าง เป็นผู้ใหญ่ เป็นระบบ ตามสนธิสัญญา (Protocal) ของต่างประเทศทั้งหมด รักษาไว้ซึ่งสันติภาพจนถึงที่สุด แล้วก็ได้ทำทุกอย่างเต็มที่ เป็นสิ่งที่ ทั้งรัฐบาล ทั้งกองทัพ ได้ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่แล้ว” นางสาวแพทองธาร กล่าว นางสาวแพทองธาร ยังขอส่งกำลังใจให้ทั้งรัฐบาล กองทัพ เจ้าหน้าที่ ประชาชนในพื้นที่ให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้เร็วที่สุด แล้วถ้ามีอะไรที่จะช่วยได้ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ในบทบาทของคนไทยคนหนึ่ง ส่วนมาตรการตอบโต้กัมพูชานอกเหนือจากมาตรการทางทหาร รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร ขอให้สัมภาษณ์ทางรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร เชื่อว่าทั่วโลกจะประณามกัมพูชา หลังจากการปะทะที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ“เราประณามสิ่งนี้ เราต้องประณามแน่นอน เพราะประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไม่ใช่ทหารด้วยกันที่มีอาวุธครบมือทั้งคู่ นี่คือยิงมาแล้วชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ ดิฉันไม่ต้องพูดอะไรมาก ทั่วโลกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็พร้อมประณามเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันทั่วโลกอยู่แล้ว”