ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่เกิดขึ้นกับอาคาร 3 ชั้นถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย. 65) ที่มีผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่าเกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดนั้น นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. ชี้แจงว่า หม้อแปลงลูกดังกล่าวไม่ได้เปิดใช้งานมา 10 วันแล้ว เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบระบบภายในและสายไฟที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ช่วงก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลงมาเตรียมการเปิดใช้งาน เปิดสวิตช์ เพื่อให้กระแสไฟเข้าสู่ระบบ แต่ช่วงระหว่างเดินทางกลับไป เพื่อรายงานได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุไฟดับและเกิดเพลิงไหม้ เมื่อถามว่า วันศุกร์ที่ผ่านมา (24 มิ.ย.65) ได้รับแจ้งว่าหม้อแปลงขัดข้องหรือไม่ เนื่องจากมีประชาชนหลายคนพูดตรงกันว่าเห็นกลุ่มควันจากหม้อแปลงไฟฟ้า นายวิลาศ ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ ขอกลับไปตรวจสอบอีกครั้งว่าวันศุกร์เกิดเรื่องนี้ขึ้นหรือไม่ ส่วนที่ผู้เสียหายกังวลว่าจะไม่ได้รับการเยียวยานั้น นายวิลาศ ระบุว่า ต้องพิสูจน์สาเหตุของการเกิดเหตุก่อน หมายถึงการตรวจพิสูจน์ระบบด้านในหม้อแปลงไฟฟ้าร่วมกับพิสูจน์หลักฐานกลาง หากเป็นความผิดพลาดของ กฟน.จริงก็ยินดีเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับกระทบโดยตรงจากเหตุหม้อแปลงขัดข้อง ส่วนจะให้ลงรายละเอียดว่าจะรับผิดชอบส่วนไหนอย่างไร ขณะนี้อาจเร็วเกินไป ต้องรอให้ได้ผลสรุปก่อน แต่ลำดับแรกจะมีการพูดคุยกับผู้เสียหาย เพื่อทำความเข้าใจก่อน หากตกลงกันได้จะได้ไม่ถึงขั้นตอนของการฟ้องร้องทางกฎหมาย สำหรับประเด็นอายุการใช้งานของหม้อแปลงดังกล่าวนั้น นายวิลาศ เปิดเผยว่า หม้อแปลงลูกนี้ใช้งานมาแล้วประมาณ 20 ปี ซึ่งตามมาตรฐานแล้วการไฟฟ้าจะเปลี่ยนหม้อไฟประมาณ 25 ปี จากการตรวจสอบหม้อแปลงลูกนี้ยังสามารถใช้การได้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากแหล่งข่าวของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าว่า ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุว่า สวิตช์ตก สายไฟชำรุด จึงมาตรวจสอบ ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น