ภาณุวิชญ์ ไทยานนท์

การเปลี่ยนผ่านของโลกการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูล "Quant" หรือการวิเคราะห์เชิงปริมาณ กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างเด่นชัดในการลงทุนยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin ซึ่งนับเป็นโอกาสใหม่ของนักลงทุนที่ต้องการแนวทางการลงทุนแบบยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนของตลาดโลก บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. จัดสัมมนาพิเศษ “เจาะพื้นฐานและ Quant ของ Bitcoin” เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Quant และการนำ Quant มาเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด Bitcoin นายวิธาน มีนาภินันท์ ผู้ก่อตั้ง Investic ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการประยุกต์ใช้ Quant ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของ Quant ชี้ให้เห็นถึงพัฒนาการของการใช้ Quant จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ สู่การเป็นเครื่องมือที่สามารถสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในช่วงเวลาเพียง 5 ปีที่ผ่านมา สำหรับ Quant กำลังถูกปรับใช้ในตลาดคริปโทฯ อย่างกว้างขวาง การทำงานของ Quant เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากอย่างเป็นระบบ โดยปราศจากอคติ (bias) และสามารถย้อนดูข้อมูลในอดีตเพื่อประเมินแนวโน้มในอนาคตได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งการวิเคราะห์ครอบคลุมหลายมิติ เช่น การวิเคราะห์ RSI (Relative Strength Index) เพื่อดูแรงซื้อแรงขาย การเปรียบเทียบราคานำหรือตามตลาด การดูโครงสร้างของตลาด คริปโทฯ ทั้งหมด (Market breadth) แสดงให้เห็นว่า Bitcoin มักเป็นตัวนำของวัฏจักรเหรียญคริปโทฯ อื่น ๆ โดยปัจจุบันนักวิเคราะห์จึงสามารถวัดอารมณ์ของตลาด ผ่านข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งบ่งชี้ถึงพฤติกรรมของนักลงทุนในภาพรวม ก่อนนำข้อมูลเหล่านี้แปลงเป็น Indicator เชิงอารมณ์ ที่ใช้เส้นสีเขียว-แดงแสดงระดับความมั่นใจหรือความกังวลของตลาด ก่อนจะผ่านกระบวนการ Quant อีกครั้งกลายเป็นเส้นสีเหลือง เพื่อใช้วิเคราะห์แนวโน้มของตลาดในเชิงลึก และนำไปสู่การสร้าง Cycle ของอารมณ์ตลาด (Sentiment Analysis) ที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจทิศทางราคาที่อาจเกิดขึ้น ด้าน นายภาณุวิชญ์ ไทยานนท์ Senior Investment Consultant บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของเมอร์เคิลมีการพัฒนากลยุทธ์การลงทุน M-QBTC โดยความร่วมมือกับบริษัท Investic เป็นกลยุทธ์ที่ผสานระหว่างการลงทุนใน Bitcoin กับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) อย่างมีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ M-QBTC มุ่งเน้นการถือครอง Bitcoin 100% ในระยะยาว พร้อมความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุน โดยสามารถเปลี่ยนไปถือครอง Stablecoin ได้ในสัดส่วนที่เหมาะสม เมื่อเข้าสู่ภาวะตลาดที่มีความเสี่ยง (Risk Off) เพื่อบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และสามารถปรับกลับมาลงทุนใน Bitcoin ได้อีกครั้งเมื่อมีสัญญาณเชิงบวกจากตลาด (Risk On) กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองบวกต่อ Bitcoin ในระยะยาว และต้องการลดความเสี่ยงระหว่างทาง โดยเฉพาะในสภาพตลาดปัจจุบันที่ Bitcoin มี Dominance สูง ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดคริปโทฯ และยังได้รับแรงสนับสนุนจาก เงินทุนสถาบัน (Institutional Inflow) ผ่านผลิตภัณฑ์เช่น Bitcoin Spot ETF สำหรับมุมมองต่อภาวะตลาดปัจจุบัน ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับดัชนี BTC Dominance แสดงให้เห็นว่ากำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเข้าใกล้ระดับสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นในปี 2020 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของการเข้าสู่ Bitcoin Cycle ขนาดใหญ่ในรอบใหม่ โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญหลายประการ ทั้งแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันผ่าน Bitcoin Spot ETF ที่ได้รับการอนุมัติในหลายประเทศ สัญญาณบวกจากดัชนีชี้วัดอย่าง Funding Rate ที่ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่ง รวมถึงการวิเคราะห์จากบริษัทการเงินชั้นนำที่คาดการณ์ว่า Bitcoin อาจมีราคาเป้าหมายในรอบนี้สูงถึง 250,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สำคัญในตลาด ไม่ว่าจะเป็นบริบทของนโยบายการเงินโลกที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) เหมือนในอดีต และการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากสถาบันการเงินระดับโลก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้นของตลาดคริปโทฯ ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การลงทุนยังคงต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการวางกลยุทธ์ที่เน้นการเลือกลงทุนอย่างเจาะจง (Selective Buy) คัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลและจังหวะเข้าลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถปรับตัวและรับมือกับความผันผวนของทั้งสภาวะตลาดการเงินโลกและปัจจัยเศรษฐกิจที่ยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ