วัลลีย์ สังข์ศิริ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่ นางวัลลีย์ สังข์ศิริ และนางสาวสุนิช์ศา ชุตินธร กรณีสร้างราคาหรือปริมาณหุ้น บริษัท ธนบุรี เมดิเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ KDH โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 17,215,750 บาท ทั้งนี้ ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นางวัลลีย์ และนางสาวสุนิช์ศา รู้เห็นตกลงกันโดยร่วมกันส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น KDH ในลักษณะผลักดันราคาอย่างต่อเนื่อง ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น KDH ในปริมาณมากและหลายระดับราคา รวมทั้งส่งคำสั่งซื้อในลักษณะไล่ราคาและส่งคำสั่งขายที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดหลายช่วงราคาเพื่อชักจูงให้นักลงทุนอื่นซื้อขายตามและต้องซื้อขายหุ้น KDH ในกรอบราคาที่กำหนดไว้ (Pump and Dump) เพื่อรวบรวมหุ้น KDH ของตนรวมกับบุคคลอื่นไปขายในรายการการซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Big Lot) หรือทำกำไรจากการซื้อขายหุ้น KDH (แล้วแต่กรณี) ส่งผลให้ราคาหุ้น KDH เปลี่ยนแปลงไปไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด ในช่วงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 7 มีนาคม 2559 และช่วงวันที่ 8 มีนาคม – 18 เมษายน 2559 การกระทำของนางวัลลีย์ และนางสาวสุนิช์ศา เป็นความผิดฐานสร้างราคาหุ้น KDH ตามมาตรา 243 (1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ทั้งนี้ ปัจจุบัน พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งแก้ไขโดย พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ยังคงบัญญัติเป็นความผิดตามมาตรา 244/3 ประกอบมาตรา 244/5 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 ซึ่งมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 บัญญัติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้กับการกระทำความผิดดังกล่าวได้ โดย คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งให้นางวัลลีย์ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งจำนวนรวม 15,297,812.50 บาท และนางสาวสุนิช์ศา ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งจำนวนรวม 1,917,937.50 บาท มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลเมื่อผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง