ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน

นายเผ่าภูมิ โรจนะสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความห่วงใยเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน หรือ พ.ร.บ. Financial Hub ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาการฟอกเงินหรือสนับสนุนการเงินเพื่อการก่อการร้ายว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวไม่ได้หละหลวม จนอาจเกิดปัญหาดังกล่าว เนื่องจากร่างกฎหมายนี้ได้จัดทำขึ้นอย่างรอบคอบโดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น ธปท., สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รมช.คลัง กล่าวด้วยว่า การส่งข้อสังเกตของธปท. ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นการสะท้อนความห่วงใยในภาพรวม โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับการฟอกเงินและการสนับสนุนการก่อการร้าย แต่ในที่ประชุม ครม. ได้หารือและยืนยันว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ผ่านการจัดทำตามมาตรฐานด้านการป้องกันการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการก่อการร้ายเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ร่างกฎหมายได้กำหนดขอบเขตและบทบาทของธุรกิจในเขต Financial Hub กับธุรกิจทั่วไปอย่างชัดเจน โดยได้มีการระบุชื่อกิจการที่เข้าข่าย Financial Hub ไว้ท้ายชื่อกิจการ เพื่อความโปร่งใสและแยกการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน สำหรับขั้นตอนถัดไป ร่าง พ.ร.บ. Financial Hub อยู่ระหว่างการเตรียมบรรจุเข้าสู่การพิจารณาวาระแรกในสภาผู้แทนราษฎร คาดว่าเป็นช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (Financial Hub)พ.ศ. .... ที่ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครม. ไฟเขียวร่างกฎหมาย “ศูนย์กลางการเงิน” หวังดึงดูดการลงทุนทั่วโลก