สื่อและสิ่งพิมพ์

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมเดือน ก.ย.ที่โตได้สูงถึง 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายขึ้นมากจากปีก่อน แต่ลดลง 5% จากช่วงเดือนก่อน มาจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ภาวะน้ำท่วม ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ผู้ลงโฆษณาชะลอการใช้งบดูสถานการณ์ และเลื่อนไปใช้ในไตรมาส 4/65 สำหรับสื่อที่โตโดดเด่น คือ โรงภาพยนตร์โตสุด 4,108% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากปีก่อนที่โรงภาพยนตร์ถูกปิด แต่ก็เป็นสื่อที่ลดลงมากสุด 36% จากช่วงเดือนก่อน ตามด้วยสื่อนอกบ้านและเคลื่อนที่ที่เป็นช่องทางเดียวที่เติบโต 91% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 7% จากช่วงเดือนก่อน จากการเดินทางตามกิจกรรมเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของศูนย์การค้า เติบโต 37% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 13% จากช่วงเดือนก่อน และทีวีเติบโต 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 5% จากช่วงเดือนก่อน และอินเทอร์เน็ต เติบโต 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 3/65 เม็ดเงินโฆษณาเติบโต 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 0.3% จากไตรมาสก่อน นับเป็นการฟื้นตัวได้ดี เพราะปีก่อนเป็นช่วงที่โควิดระบาดหนักสุดของปีเทียบกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ส่วนที่ทรงตัวจากไตรมาสก่อนมาจากปัจจัยที่แจ้งในเดือน ก.ย. ทำให้สื่อทีวีที่มีสัดส่วนการใช้เม็ดเงินโฆษณามากสุดที่ 52% แต่หดตัว 5% จากไตรมาสก่อน และสื่ออินเทอร์เน็ตที่มีสัดส่วน 23% โตเพียง 0.5% อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “ลงทุนเท่ากับตลาด” ซึ่งปกติไตรมาส 4 จะเป็น high season เทียบจากไตรมาสก่อน แต่ปัจจัยลบข้างต้นที่ได้กล่าวมาอาจทำให้การฟื้นตัวมีจำกัด ทั้งนี้ Top Pick จึงเป็น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ที่มีเม็ดเงินโฆษณากลับมาฟื้นตัวได้โดดเด่นและมีหนังใหญ่ เข้าฉายในไตรมาส 4/65 เช่น Avatar 2, Black Panther และ Black Adam และหนังไทยซึ่งรวมของ MPIC (บริษัทย่อย) 7 เรื่อง แนะนำราคาเป้าหมาย 23.10 บาท และ บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE จากธุรกิจกระจายตัว และกลับมาจัดอีเวนต์ได้แล้ว ซึ่งครึ่งปีหลัง 65 มีราว 13 งาน จากปีก่อนไม่มีเข้ามาซึ่งชดเชยได้ส่วนหนึ่ง แนะนำราคาเป้าหมาย 12.30 บาท ส่วน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC แนะนำราคาเป้าหมาย 14 บาท และ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI แนะนำราคาเป้าหมาย 5.55 บาท