หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 15:52 น. อยู่ที่ 1,404.68 จุด เพิ่มขึ้น 24.72 (+1.79%) มูลค่าการซื้อขาย 34,687.83 ล้านบาท รับแรงซื้อหุ้นบลูชิพหนุน และตามตลาดหุ้นเอเชีย รับปัจจัยบวกเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด และประธานเฟดไม่ส่งสัญญาณเซอร์ไพร์สตลาด ทำให้ตลาดคาดเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อ และ Bond Yield สหรัฐ ปรับตัวลง หนุนตลาดหุ้น และส่งผลแรงซื้อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ บล.กสิกรไทย มุมมอง SET Index ในช่วงบ่ายยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวก ตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่ได้รับผลบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากการที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ย ลุ้นผ่านแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,400 จุด หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มการเงิน ด้านนายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ขานรับปัจจัยหนุนจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คงดอกเบี้ยไว้ตามที่ตลาดคาด และถ้อยแถลงของประธานเฟดไม่ได้มีเซอร์ไพรส์ แม้ยังย้ำว่าเงินเฟ้อที่ระดับเป้าหมาย 2% ยังต้องใช้เวลาในการปรับลง แต่ไม่ได้ตัดสินใจว่าจะขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือไม่ ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) 10 ปี ได้ปรับตัวลง ทำใหเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้น และเป็นผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ที่มีแรงซื้อเข้ามา ช่วยหนุนดัชนี และยังมีแรงซื้อ DELTA เข้ามาช่วยหนุนดัชนีด้วยเช่นกัน แนวโน้มในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีแกว่งตัวแดนบวกต่อ โดยที่ยังต้องติดตามการรายงานผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/66 ที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้แนวต้าน 1,405-1,410 จุด แนวรับ 1,365-1,370 จุด

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลง

แรงซื้อหุ้นบลูชิพ ดัน SET บ่ายทะลุ 1,400 จุด

บริษัท บูรพาทัศน์ (1999) จำกัด