องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ

การโจมตีหลายครั้งจากกลุ่มกองกำลังฮูตี ที่ว่ากันว่าได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เกิดผลกระทบต่อเรือเดินสมุทรจำนวนมากในทะเลแดง เพราะถือเป็นการขัดขวางหรือทำให้การขนส่งทางเรือในคลองสุเอซ เส้นทางขนส่งทางทะเลที่เร็วสุดระหว่างเอเชียกับยุโรป ต้องแบกรับเส้นทางขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลกถึง 12% นั่นทำให้ “เศรษฐกิจยุโรป” ขณะนี้กำลังเผชิญอยู่บนขอบของ “ภาวะถดถอยแบบอ่อน ๆ” เรียบร้อยแล้ว หลังจากยุโรปพยายามจะสลัดภาวะอัตราเงินเฟ้อสูงให้หลุดออกไป ภาวะยุ่งเหยิงที่ขยายเวลานานมากขึ้น ถือว่าเป็นความเสี่ยงใหม่ต่อมุมมองของบรรดานักวิเคราะห์ต่าง ๆ จนอาจทำให้ธนาคารกลางทั้งหลาย ที่จะเริ่มหั่นอัตราดอกเบี้ยปีนี้ ต้องหยุดชะงักหรือไม่..!? ตราบจนถึงปัจจุบัน อะไรคือผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรป.? ในมุมของเศรษฐกิจมหภาค อาจดูเล็กน้อยหรือไม่ได้สำคัญมากนัก แต่รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี ย้ำว่า กำลังเฝ้าจับตาดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ผลกระทบต่อผลิตผล ที่สามารถสังเกตได้จนถึงขณะนี้ มี 2-3 กรณีที่ระยะเวลาการขนส่งที่ล่าช้าออกไป “แอนดริว เบลีย์” (Andrew Bailey) ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เห็นด้วยว่า เหตุการณ์ในทะเลแดง แท้จริงแล้วยังไม่ได้มีผลกระทบที่เขาเกรงว่าอาจจะมี ขณะที่รับรู้ว่าความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่จริง..!! เหตุผลหลักที่กรณีความยุ่งเหยิงในทะเลแดง กระตุ้นให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นั่นคือเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจโลกทั้งหมดกำลังทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน นั่นหมายถึงมีความ “เฉื่อยชา” หรือ “ความไม่สมบูรณ์” ที่มากมายในระบบเศรษฐกิจ..!!?? สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือ ราคาน้ำมัน เส้นทางขนส่งลำเลียงผ่าน ซึ่งหากตะวันออกกลางประสบความยากลำบาก อาจส่งผลสะเทือนถึงเศรษฐกิจยุโรปและอาจขยายวงกว้างมากกว่านั้นด้วย เพราะล่าสุดปัญหานี้ไม่ได้คลี่คลายลงไป “ฟาติห์ บิโรล” (Fatih Birol) ผู้อำนวยการองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณการผลิตน้ำมันหรือซัพพลายยังแข็งแกร่ง และการขยายตัวของดีมานด์กำลังชะลอตัวลง “ไม่ได้คาดหวังการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของราคาน้ำมัน เพราะขณะนี้มีปริมาณน้ำมันเข้าสู่ตลาดที่มากพอ” ดังนั้นผู้กำหนดนโยบายของยุโรป จะมองข้ามปัญหาในทะเลแดงไม่ได้ เนื่องจากหากภาวะยุ่งเหยิงดำเนินต่อไปยาวนาน เป็นไปได้ว่าอาจเกิดความเสียหายต่อภาพรวมเศรษฐกิจวงกว้างได้ แม้ว่าอาจเป็นเพียงทีละเล็กละน้อย โดยการใช้ประมาณการผลกระทบของค่าระวางขนส่งที่สูงขึ้นโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดเส้นทางใหม่ สำนักวิจัยอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Oxford Economics) มีการประมาณการว่า ค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่สูงขึ้น จะเพิ่มอัตราเงินเฟ้อปีนี้ 0.6% โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่า อัตราเงินเฟ้อยูโรโซน จะปรับลงจาก 5.4% ช่วงปี 2566 มาสู่ระดับ 2.7% ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม Oxford Economics มีการเสนอแนะว่า การปิดทะเลแดงที่ดำเนินต่อไปจะไม่ได้ขัดขวางให้อัตราเงินเฟ้อปรับลง แต่จะชะลอความเร็วซึ่งอัตราเงินเฟ้อจะกลับคืนสู่ระดับปกติ แต่ยังไม่ได้มองว่าสิ่งนี้จะเป็นการสกัดกั้นนโยบายสำคัญของ ECB ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง..!!