เขื่อนวชิราลงกรณ

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ณ เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน นางพรรณวิภา ปิยัมปุตระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายนรินทร์ เผ่าวณิช รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. และคณะผู้บริหารร่วมให้การต้อนรับ โดยโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในแผนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำในเขื่อนหลักของ กฟผ. 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี รวมกำลังผลิตทั้งสิ้น 1,638 เมกะวัตต์ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ (Net Zero) ภายในปี 2050 ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 20.56 ล้านตัน ตลอดอายุโครงการ 25 ปี โดยขณะนี้ระยะที่ 1 ของทั้งสามโครงการอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์มีแผนพัฒนาโครงการ 4 ระยะ รวมกำลังผลิต 770 เมกะวัตต์ โดยระยะที่ 1 มีกำลังผลิต 140 เมกะวัตต์ ครอบคลุมพื้นที่ผิวน้ำประมาณ 1,020 ไร่ ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิด Double Glass Monocrystalline Silicon PV มีกำลังผลิตไม่ต่ำกว่า 650 วัตต์ต่อแผง คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2570 ขณะที่ระยะต่อไป ได้แก่ ระยะที่ 2 กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ ระยะที่ 3 กำลังผลิต 280 เมกะวัตต์ และระยะที่ 4 กำลังผลิต 300 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ ในส่วนของเขื่อนภูมิพล มีกำลังผลิตรวม 778 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นระยะที่ 1 จำนวน 158 เมกะวัตต์ ระยะที่ 2 จำนวน 300 เมกะวัตต์ และระยะที่ 3 จำนวน 320 เมกะวัตต์ ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณมีกำลังผลิตรวม 90 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นระยะที่ 1 จำนวน 50 เมกะวัตต์ และระยะที่ 2 จำนวน 40 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ดี แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP2018 Rev.1) กำหนดให้ กฟผ. เป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar) รวมกำลังผลิต 2,725 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมาย Net Zero โดยใช้ทรัพยากรน้ำในเขื่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนผิวน้ำและเชื่อมระบบเข้ากับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเดิม ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ทำให้ค่าไฟอยู่ในระดับเหมาะสม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศที่มีความผันผวน โดยที่ผ่านมา กฟผ. ได้ดำเนินโครงการต้นแบบที่เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี และเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และเป็นต้นแบบให้กับการขยายผลสู่เขื่อนหลักทั่วประเทศ เพื่อสร้างระบบพลังงานสะอาดที่มั่นคงและยั่งยืน