เสนอซื้อหุ้น

บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2569 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากได้รับหนังสือแจ้งเจตนาเสนอซื้อหุ้นจากนายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โดยนายพงษ์ศักดิ์ แจ้งความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทที่ถือโดยผู้ถือหุ้นรายอื่น ได้แก่หุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดของบริษัทจำนวน 470,092,594 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 21.83% โดยจะทำคำเสนอซื้อในราคาหุ้นละ 7.50 บาทต่อหุ้น สำหรับเหตุผลหลักของการเพิกถอนหุ้นได้แก่ 1.จะช่วยให้การบริหารจัดการและดำเนินธุรกิจของบริษัทมีประสิทธิภาพและความคล่องตัวยิ่งขึ้น ลดขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ของบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งลดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม 2.ในปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มีจำนวนไม่มากนัก การเพิกถอนจะเป็นประโยชน์ต่อสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัท โดยจะช่วยเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัท 3.การเพิกถอน จะเป็นทางเลือกให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยในการขายหุ้นของบริษัทได้ตามจำนวนที่ต้องการ ในราคาที่เหมาะสมตามที่กำหนดในคำเสนอซื้อเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ เพื่อลดความเสี่ยงจากผลดำเนินงานที่มีความผันผวน ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทต้องรับภาระการเพิ่มทุนเพิ่มเติม 4.การระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ ในสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทมีประสิทธิภาพลดลง เนื่องจากผลการดำเนินงานมีความผันผวน และแนวโน้มผลประกอบการในอนาคตมีความไม่แน่นอน ซึ่งเป็นผลจากหลายปัจจัย เช่น ภาวะความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสาตร์ ความตึงเครียดทางการค้า และกำลังซื้อที่ลดลงภายใต้ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ การทำคำเสนอซื้อจะเกิดขึ้นหลังจาก (1) ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงิน, 2ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 และไม่มีผู้คัดค้านเกินร้อยละ 10 และ3.ได้รับอนุญาตและอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้บอร์ดยังมีมติแต่งตั้งบริษัทเจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เพื่อให้ความเห็นต่อผู้ถือหุ้น และกำหนดจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2569 ในวันที่13 มกราคม 2569 เพื่อขอความเห็นชอบในเรื่องดังกล่าว