โรงพยาบาลวิชัยเวช

ผศ.พญ.สายสุณี วนดุรงค์วรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ VIH เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในทุกด้านด้วยศักยภาพการบริหารจัดการธุรกิจ การให้บริการทางการแพทย์ โดยมีรายได้รวม 738.47 ล้านบาท สัดส่วนรายได้หลักมาจากรายได้กิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 725.24 ล้านบาท จากช่วงเดียวของปีก่อนที่มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 679.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.79% ขณะที่กำไรสุทธิ 97.07 ล้านบาท พุ่งขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 77.76 ล้านบาท ถึง 24.84% ด้านผลประกอบการ 6 เดือนแรก ในส่วนของรายได้รวมอยู่ที่ 1,449.58 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,363.52 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 6.31% ส่วนกำไรสุทธิ 195.92 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 150.07 ล้านบาท หรือพุ่งขึ้นขึ้น 30.55% ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยรากฐานที่มั่นคง สามารถสร้างการเติบโตในหลากหลายมิติ โดยการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ มูลค่าการรักษาต่อครั้ง รายได้จากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ รวมถึงรายได้ประกันสังคม ประกอบกับความสำเร็จในการบริหารจัดการต้นทุนควบคู่การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในภาวะตลาดที่มีความท้าทาย ด้วยความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงความสำเร็จมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากศักยภาพในการรักษาโรคซับซ้อนเพิ่มขึ้น การขยายพื้นที่ให้บริการ คุณภาพของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและกลยุทธ์การกำหนดราคาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดผู้รับบริการทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์ผู้ป่วยใน (IPD) ซึ่งได้รับผลกระทบจากการลดลงของผู้ป่วยในของศูนย์หัวใจวิชัยเวชฯ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลโครงการสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ โดยมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุมัติและการบริหารงบประมาณของโครงการใหม่ความรัดกุมยิ่งขึ้น โดยนโยบายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2567 ซึ่งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนจากจำนวนการทำหัตถการสวนหัวใจ (Cardiac Catheterization) ซึ่งเป็นหัตถการที่มีมูลค่าสูงและเป็นตัวชี้วัดสำคัญของศูนย์หัวใจ ทั้งนี้ จำนวนการทำหัตถการในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ลดลง เหลือ 821 ราย จาก 858 รายในปีก่อนหน้า และสำหรับ งวด 6 เดือน ลดลงเหลือ 1,656 ราย จาก 1,863 ราย ในปีก่อนหน้า การลดลงของจำนวนหัตถการหลักนี้ส่งผลโดยตรงต่อรายได้ของศูนย์ฯและรายได้ผู้ป่วยในโดยรวม อย่างไรก็ตาม เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและบรรเทาผลกระทบดังกล่าวฝ่ายบริหารได้ดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อสร้างสมดุลของโครงสร้างรายได้ โดยดำเนินการขยายฐานผู้รับบริการไปยังกลุ่มลูกค้าทั่วไป ซึ่งมีเสถียรภาพและกำลังซื้อสูงเพื่อผลักดันผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังปีนี้ให้เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว