ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม

นับตั้งแต่ “กลุ่มแวนดาว” ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจาก สปป.ลาว เข้ามารวบหัวรวบหางกินตรงกลางตลอดตัว บริษัท ที เอ็นจิเนียร์ริ่ง คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ T (ก่อนหน้านั้นชื่อบริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TIES เมื่อช่วงปี 2564 พร้อมเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่เป็นบริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSG ในปัจจุบัน... สิ่งที่เกิดขึ้นนั่นคือ ธุรกิจของ PSG เปลี๊ยนไป๋อย่างเห็นได้ชัด... จากเดิมขอบข่ายการรับงานก่อสร้างจะเป็นพวกอาคารโรงงาน คลังสินค้า อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า อาคารที่พักอาศัย ก็ขยับไปรับงานโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ตามมาด้วยการก่อสร้างระบบลำเลียงถ่านหินและเถ้าสำหรับโรงไฟฟ้า การได้รับสิทธิในการก่อสร้างชุมชนใหม่ และงานก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานใน สปป.ลาว รวมทั้งเข้าสู่ธุรกิจเหมืองแร่ โดย PSG วางเป้าในอนาคตโครงสร้างรายได้จะมาจาก 3 ขาธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจบริหารจัดการเหมืองถ่านหิน-เหมืองทองคำ สัดส่วน 60% ของรายได้ ธุรกิจพลังงาน สัดส่วน 30% ของรายได้ และก่อสร้าง สัดส่วน 10% ขณะที่มีเป้าหมายต้องพุ่งชนจะสร้างรายได้สู่ระดับ 30,000 ล้านบาท ภายใน 10 ปีนะเออ..!! เมื่อโครงสร้างธุรกิจเริ่มเข้ารูปเข้ารอย ระหว่างนี้ก็มีการจัดสตรัคเจอร์หุ้นใหม่ จากหุ้นที่กระจัดกระจาย อันเป็นผลมาจากการเพิ่มทุนหลายรอบในอดีตเพื่อหาเงินมาเติมสภาพคล่อง แต่มาวันนี้หุ้นมีเยอะเกินไปแล้ว เลยเป็นที่มาของการรวมพาร์ จากเดิม 1 บาท เป็น 3.65 บาท ซึ่งจะทำให้หุ้นของบริษัทหายไปจำนวน 11,796.57 ล้านหุ้น จากเดิมอยู่ที่ 16,248.11 ล้านหุ้น จะเหลือแค่ 4,451.54 ล้านหุ้น ซึ่งทำมาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่ยังไม่จบนะ เพราะตามแผน PSG จะปรับโครงสร้างทุน 3 ครั้งด้วยกัน เป้าหมายเพื่อล้างส่วนต่างมูลค่าหุ้น และล้างขาด ทุนสะสมให้หมดเกลี้ยงนั่นเอง พอโครงสร้างธุรกิจชัด สิ่งที่ตามมาทำให้ผลประกอบการของ PSG ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ จากเมื่อหลายปีก่อนมีรายได้รวมหลักสิบล้าน กระโดดมาเป็นหลักพันล้าน ฟากกำไรจากที่เคยติดลบก็พลิกมาเป็นบวก...เริ่มจากในปี 2564 มีรายได้รวม 44.58 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 63.13 ล้านบาท ถัดมาปี 2565 มีรายได้รวม 1,050.30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 540.46 ล้านบาท ส่วนปี 2566 มีรายได้รวม 2,750.75 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,316.42 ล้านบาท ขณะที่ปี 2567 มีรายได้รวม 3,556.37 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,438.75 ล้านบาท ด้านอัตรากำไรสุทธิจากที่เคยติดลบก็พุ่งมาอยู่ในระดับสูง เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 40% เลยทีเดียว...ส่วนที่เห็นงวดครึ่งแรกของปี 2568 อัตรากำไรสุทธิต่ำกว่าที่เคยทำได้อยู่ที่ 9.01% เป็นเพราะในช่วงครึ่งปีแรกเป็นโลว์ซีซั่นของธุรกิจ หันไปดูตัวเลขสำคัญอื่น ๆ ก็ทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) หรืออัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ล้วนอยู่ในระดับสูงไม่ต่ำกว่า 30% เช่นกัน... ที่สำคัญตอนนี้ PSG ล้างขาดทุนสะสมหมดเกลี้ยงแล้วนะ โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 มีตัวเลขกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรอยู่กว่า 1,785.29 ล้านบาท เอ๊ะ...งั้น PSG ก็หวนกลับมาจ่ายปันผลได้แล้วนะสิ..?? คงต้องวัดใจบอร์ด PSG แล้วล่ะว่าจะคืนความสุขให้กับผู้ถือหุ้นกี่โมง..?? ถ้ายึดโยงตามที่ “เฮียเดวิด แวน ดาว” บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่จ่ายเงินปันผลในช่วง 1-2 ปีนี้นะ ว่าแต่จะใจร้ายปล่อยให้ผู้ถือหุ้นรอเงินปันผลนานขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย..?? โอเค...การนำเงินไปต่อยอดการลงทุนขยายธุรกิจ ก็ดีแหละ...แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ต้องเจียดเงินมาจ่ายปันผลด้วยสิ... PSG จะได้ครบเครื่องทั้งเป็นหุ้น Growth Stock (หุ้นเติบโต) และ Stock Dividend (หุ้นปันผล) ไม่ดีกว่าเหรอคะ “เฮียเดวิด” ขาาา... ...อิ อิ อิ...