CEO Forum 2025

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (25 มิ.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ณ เวลา 14.48 น. อยู่ที่ระดับ 18.20 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 4.60% สูงสุดที่ระดับ 18.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 17.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 300.93 ล้านบาท นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CRC เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปี (ปี 2568-2570) บริษัทได้วางงบลงทุนรวมไว้ที่ประมาณ 45,000-47,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงการวิจัยและพัฒนา Store Concept ใหม่ ๆ ซึ่งแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจ และการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับประมาณ 1.0-1.1 เท่า และในอนาคตบริษัทจะรักษา D/E ไว้ในระดับนี้ โดยในช่วง 3 ปีนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาใหม่รวม 57-72 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิมประมาณ 31-41 สาขา ดังนี้ บริษัทมีแผนเปิด Department Stores สาขาใหม่ 1-2 สาขา และมีการปรับปรุงสาขาเดิม 4-6 สาขา, มีแผนเปิด Tops สาขาใหม่ 25-30 สาขา และมีแผนปรับปรุงสาขาเดิม 8-10 สาขา, มีแผนเปิด Thaiwatsadu สาขาใหม่ 13-16 สาขา และมีแผนปรับปรุงสาขาเดิม 8-10 สาขา, มีแผนเปิด Robinson Lifestyle สาขาใหม่ 2-3 สาขา และมีแผนปรับปรุงสาขาเดิม 5-7 สาขา รวมถึงมีแผนจะเปิด Go สาขาใหม่ในต่างประเทศรวม 16-21 สาขา และมีแผนปรับปรุงสาขาเดิม 6-8 สาขา สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีดังกล่าว บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี ผ่านกลยุทธ์ "New Heights, Next Growth" ดัน 5 แกนหลัก ยกระดับศักยภาพองค์กรสู่การเติบโตครั้งใหม่ สำหรับกลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” จะเน้นการยกระดับขีดความสามารถขององค์กรในทุกด้าน โดยมี 5 แกนสำคัญ ดังนี้ 1.Reinforce Customer Focus เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผ่านการพัฒนา The 1 Loyalty Program ทั้งในไทยและเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 26 ล้านราย โดยเดินหน้าขยายฐานไปยังกลุ่ม “Young & Mainstream” และลูกค้า B2B เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม CRM ให้สามารถรองรับความต้องการเฉพาะกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.Strengthen CRC Foundation เสริมรากฐานธุรกิจหลักให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ยอดขาย กำไร และการบริหารสาขา พร้อมบูรณาการแพลตฟอร์มดิจิทัลให้เป็นหนึ่งเดียว รองรับการเติบโตของ Omnichannel และขับเคลื่อน AI เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมถึงเร่งขยายธุรกิจ Food และ Mall ในเวียดนาม และเปิดตัว Store Format ใหม่ที่สอดรับกับความต้องการเฉพาะในแต่ละพื้นที่ 3.Expedite New Growth เร่งสร้าง New Growth Engine ผ่านการรุกธุรกิจ GO WHOLESALE ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. ขยายแบรนด์ Private Labels, 2. การเป็น HORECA Destination สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร, 3. เป็นผู้นำด้านสินค้าสด Always Fresh-Forward, 4. ขยายสาขาเพิ่ม 12-18 แห่งภายใน 3 ปี และ 5. เปิด Fulfillment Store รองรับ HORECA และค้าปลีกอาหาร นอกจากนี้ ยังเดินหน้าขยายเครือข่าย “Autol” ศูนย์บริการและจำหน่ายอุปกรณ์รถยนต์ครบวงจร ด้วยการเปิดสาขาไม่ต่ำกว่า 10 แห่งต่อปี 4.Scale Synergy สร้างความร่วมมือทั้งภายในและภายนอกองค์กรให้เข้มข้นขึ้น โดยใช้ศักยภาพของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งหมดในการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งในแง่การเพิ่มยอดขาย การใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า การพัฒนาพนักงานข้ามกลุ่มธุรกิจ และการใช้โมเดล Mixed-use และ Hybrid Retail Store เพื่อเพิ่ม ROI สูงสุด และ 5. Disciplined Financial Management เน้นการบริหารการเงินอย่างรอบคอบและมีวินัยสูงสุด ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยเน้นการควบคุมค่าใช้จ่าย การลงทุนเฉพาะในธุรกิจที่มีศักยภาพสูง และบริหารโครงสร้างเงินทุนอย่างสมดุล เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน พร้อมสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้กับผู้ถือหุ้น ด้าน นายปเนต มหรรฆานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน CRC เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sales Growth-SSSG) ของ CRC ช่วงเดือนเมษายน–พฤษภาคม 2568 ยังคงเป็นแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และกำลังซื้อที่ลดลง ซึ่งชะลอลงต่อเนื่องมาจากไตรมาส 1/2568 ที่ติดลบอยู่ สำหรับรายได้จากการขายปี 2568 บริษัทประเมินว่าจะเติบโตประมาณ 4-6% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 262,804.38 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/2568 บริษัทมีรายได้รวมแล้วที่ 69,280.18 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง CRC ภายหลังงาน CEO Forum 2025 ภายใต้หัวข้อ "New Heights, Next Growth" CRC ได้เปิดเผยกลยุทธ์ครอบคลุม 3 ปีภายใต้การนำของซีอีโอคนใหม่ นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่วัตถุประสงค์ของแบรนด์ "Central to Life" ซึ่งออกแบบมาเพื่อรับมือกับ "Polycrisis" ระดับโลกที่ท้าทาย โดยการเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก เร่งการเติบโตใหม่ และขับเคลื่อนความร่วมมือภายในกลุ่ม หลังจากเวทีดังกล่าว เราคาดหวังสัญญาณเชิงบวกในช่วงแรกจากการปรับปรุงอัตรากาไรขั้นต้นตามการเติบโตของรายได้ตลอดปี โดย CRC ระบุว่าธุรกิจในเวียดนามเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตหลักในอีก 3 ปีข้างหน้า กำหนดเป้าหมายการเติบโตสองหลักในภูมิภาคซึ่งเหนือกว่าการเติบโต 5-6% ที่คาดการณ์สำหรับไทยและอิตาลี การขยายจะมุ่งเน้นการเปิดรูปแบบ Hypermarket และ GO! mall ในเมืองใหญ่ CRC กำลังปรับการใช้จ่ายเงินลงทุนให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ผู้บริหารปรับแนวทางค่าใช้จ่ายเงินลงทุนปี 2568ลงมาอยู่ในช่วงต่ำของ 1.5-1.7 หมื่นล้านบาท จาก 1.7-1.9 หมื่นล้านบาท นี่เป็นการเลื่อนโครงการ ไม่ใช่การยกเลิก แผนการลงทุน 3 ปี มูลค่า 4.5 หมื่นล้านบาท ยังคงเดิม ด้วยการลดค่าใช้จ่ายเงินลงทุน CRC กาลังศึกษาการเพิ่มผลตอบแทนผู้ถือหุ้นผ่านมาตรการต่างๆ โดยคาดว่าจะมีการตัดสินใจสนับสนุนการลงทุนภายในปีนี้ ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40 บาท โดยได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการเติบโตของรายได้ SSSG ในครั้งหลังปี 2568 และธุรกิจในเวียดนามเป็นปัจจัยสนุบสนุน