ChinaPlays

"ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์" ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ (1–5 ก.ย. 68) ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้หลังการเมืองมีความชัดเจน หลังมีคำตัดสินให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บล.กรุงศรี ให้แนวรับที่ 1,224-1,212 จุด และแนวต้าน 1,248-1,262 จุด กลยุทธ์การลงทุน แนะนำสลับไปลงทุนในหุ้นกลุ่ม Global Plays โดยเฉพาะหุ้น China Plays ที่ได้แรงหนุนจากสหรัฐฯ–จีนเตรียมเจรจาการค้า ขณะที่หุ้นที่อานิสงส์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลงยังคงน่าสนใจ เนื่องจากฝั่งสหรัฐฯ มีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากความเสี่ยงในตลาดแรงงาน ส่วนปัจจัยในประเทศ ความไม่ต่อเนื่องทางการเมืองอาจกดดันบางอุตสาหกรรม เช่น สื่อสารและพลังงานไฟฟ้า แต่หุ้นกลุ่ม Defensive อย่างโรงพยาบาลเริ่มมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะชาวคูเวต สำหรับหุ้นเด่นประจำสัปดาห์แนะนำ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ราคาเป้าหมาย 28 บาท ได้แรงหนุนจากเจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีนและธีม Anti-involution บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ราคาเป้าหมาย 22 บาท ได้อานิสงส์จากการค้าสหรัฐฯ–จีน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ราคาเป้าหมายเชิงอนุรักษ์นิยม 34 บาท ที่คาดแรงกดดันด้านซัพพลายโรงกลั่นจะลดลงในช่วงไตรมาส 3/68-69 สำหรับการลงทุนไตรมาส 3/68 บล.กรุงศรี แนะนำ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE, บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, PTTGC, IVL, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เป็นหุ้นเด่น ขณะที่หุ้น Small Cap Play ได้แก่ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH, บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD, บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA และบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ด้านปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนควรติดตามการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนในช่วงปลายสัปดาห์ ข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ ได้แก่ ADP (4 ก.ย.) และ Non-Farm Payrolls (5 ก.ย.) รวมถึงดัชนี PMI ทั้งสหรัฐฯ-จีน และอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน ส่วนในประเทศจับตาดัชนี CPI เดือนสิงหาคม และความคืบหน้าการจัดทำงบประมาณปี 2569