DeepThink

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Google เปิดฉากเดินเกมรุกในศึก AI อย่างเป็นทางการ ด้วยการเผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ชุดใหญ่ในงาน Google I/O 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยใช้เวทีนี้เปิดตัวนวัตกรรม AI หลายรายการ หวังดึงโมเมนตัมกลับคืน หลังสูญเสียความได้เปรียบให้กับ OpenAI ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยหนึ่งในไฮไลต์ของงาน คือ “Deep Think” โหมดการให้เหตุผลขั้นสูงใน Gemini 2.5 Pro ซึ่ง Google ระบุว่าจะช่วยให้ AI ประเมินคำตอบที่เป็นไปได้หลากหลายแนวก่อนตัดสินใจตอบ ทำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างชัดเจนในการทดสอบ benchmark โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองเฉพาะกลุ่ม ผ่าน Gemini API ตามมาด้วย “Veo 3” แอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโอที่สามารถสั่งงานด้วยข้อความหรือภาพ โดยได้รับการพัฒนาให้รองรับวิดีโอคุณภาพสูง พร้อมฟีเจอร์ใส่เสียงเอฟเฟกต์ แบ็กกราวนด์ และบทสนทนาแบบอัตโนมัติ เปิดให้ใช้งานแล้วผ่านแอป Gemini สำหรับสมาชิกแผน AI Ultra ซึ่งมีค่าบริการ 249.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน โดย Google ระบุว่า แผนนี้คือการมอบ “สิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงสุด” สำหรับบริการที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของบริษัท ในฝั่งภาพนิ่ง “Imagen 4” ถูกนำเสนอในฐานะเครื่องมือสร้างภาพเวอร์ชันใหม่ ที่รองรับความละเอียดสูงถึง 2K พร้อมจุดแข็งด้านการสร้างรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น ลวดลายบนผ้า หยดน้ำ หรือขนสัตว์ได้อย่างแม่นยำ โดยทั้ง Veo 3 และ Imagen 4 จะถูกบูรณาการเข้าสู่เครื่องมือสร้างวิดีโอใหม่ของ Google ที่ชื่อว่า “Flow” ซึ่งออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้สร้างคอนเทนต์ยุคดิจิทัลโดยเฉพาะ อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญคือ Gemini Live ที่รองรับการสนทนาด้วยเสียงแบบเรียลไทม์ พร้อมเชื่อมต่อกับกล้องและหน้าจอสมาร์ตโฟนได้ทันที โดยใช้เทคโนโลยีจาก Project Astra ซึ่งสามารถแปลภาษา บอกเส้นทาง และตอบคำถามเชิงภาพได้แบบโต้ตอบสด ขณะเดียวกัน Google ยังประกาศขยายการใช้งาน AI ไปยังชุด AI Workspace ที่ครอบคลุม Gmail, Docs และ Google Tasks โดยจะเพิ่มความสามารถในการจัดระเบียบอีเมล ตอบกลับอัตโนมัติ และสร้างกิจกรรมด้วยเสียง เพื่อยกระดับประสบการณ์การทำงานในระดับองค์กร มอง “Google” เร่งเกม เพราะ “ChatGPT” นำหน้า สำหรับการเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนแรงกดดันของ Google ที่ต้องเร่งพัฒนา ecosystem ของ Gemini ให้ทันกับ ChatGPT ซึ่งกลายเป็นโมเดล AI ที่ผู้ใช้งานทั่วไปนึกถึงเป็นอันดับแรก และยังได้รับแรงหนุนเชิงพาณิชย์จาก Microsoft อย่างเต็มกำลัง แม้ Google จะเปิดตัว Gemini อย่างยิ่งใหญ่ไปก่อนหน้านี้ แต่ยังเผชิญข้อจำกัดด้านความแม่นยำ ความพร้อมใช้งาน และความน่าเชื่อถือในระดับผู้ใช้ทั่วไป การเปิดตัว Veo 3, Imagen 4 และ Gemini Live ครั้งนี้ จึงถือเป็นความพยายามในการ “รวมจักรวาล AI” ทั้งระบบภาพ เสียง และข้อความ ให้อยู่ภายใต้แบรนด์ Gemini อย่างเต็มรูปแบบ ในมุมเศรษฐกิจ การผลักดันโมเดลสมัครสมาชิกผ่านแผน AI Ultra ยังสะท้อนการวางหมากระยะยาวของ Google ที่ต้องการกระจายพอร์ตจากรายได้โฆษณาออนไลน์ไปสู่บริการ AI โดยตรง คล้ายกับกลยุทธ์ของ Microsoft ที่ใช้ Azure ขับเคลื่อน OpenAI ทั้งนี้ ตลาดเทคโนโลยีโลกคาดว่า การแข่งขันระหว่าง Google - OpenAI - Microsoft จะทวีความร้อนแรงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยเฉพาะเมื่อโมเดลอย่าง Veo vs. Sora, Imagen vs. DALL-E และ Gemini vs. ChatGPT เริ่มเข้าสู่สมรภูมิเดียวกัน และผู้ใช้งานเริ่มตัดสินใจจากประสบการณ์ใช้งานจริงมากกว่าคำโฆษณา ภาพจาก เว็บไซต์ https://io.google/2025/