Dell

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (8 ต.ค.68) ปิดในทิศทางผสม ดัชนีดาวโจนส์อ่อนตัวเล็กน้อย ขณะที่ Nasdaq และ S&P 500 ปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 46,601.78 จุด ลดลง 1.20 จุด หรือ -0.00% ขณะที่ ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,753.72 จุด เพิ่มขึ้น 39.13 จุด หรือ +0.58% และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 23,043.38 จุด เพิ่มขึ้น 255.01 จุด หรือ +1.12% ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แรงซื้อหุ้นกลุ่ม AI เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของตลาด โดย Advanced Micro Devices (AMD) พุ่งขึ้น 11.4% หลังบรรลุข้อตกลงจัดหาชิป AI ให้กับ OpenAI ภายใต้ดีลที่อาจสร้างรายได้หลายหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ขณะที่ Dell Technologies ปรับตัวขึ้น 9.1% หลังได้รับการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจากหลายสำนักวิจัย หุ้นกลุ่มเหมืองทองคำ เช่น Gold Fields ปรับขึ้น 3.7% ตามราคาทองคำที่พุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนหันเข้าถือทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยง หลังตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า ด้านการเมืองในประเทศสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยจำกัดแรงซื้อ โดยการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาล (Government Shutdown) ยืดเยื้อมาถึงวันที่ 8 ส่งผลให้ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญออกมาเพิ่มเติม ทำให้ตลาดขาด “ตัวเร่งใหม่” ในระยะสั้น ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตารายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำเดือนกันยายน ซึ่งระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องว่า “เหมาะสมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม” ภายในปีนี้ แม้ยังคงกังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อ ตลาดให้น้ำหนักสูงถึง 92.5% ต่อความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนตุลาคมนี้ ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ขณะเดียวกัน ปริมาณการถือครองตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ (U.S.Treasuries) โดยธนาคารกลางต่างประเทศ ณ สาขา New York Fed ลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความระมัดระวังของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ