DigitalHRTransformation

นางสาวริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR ผู้นำโซลูชันด้านทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร (Total HR Solutions) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสะท้อนถึงศักยภาพของ PRTR ในการสร้างการเติบโตได้ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยในครึ่งปีหลังแม้ภาพรวมเศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้า แต่หลายภาคอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มขยายตัวดี โดย PRTR พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตทั้งจาก Organic Growth และ Inorganic Growth ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอบโจทย์ยุค Digital HR Transformation กำลังเป็นเมกะเทรนด์ที่ทุกองค์กรต้องเผชิญ โดย ธุรกิจจัดจ้างพนักงาน (Outsource) เป็นธุรกิจหลักของบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในการรับรู้รายได้สม่ำเสมอ มี Recurring income ในระดับสูงถึง 96% ตอบสนองความต้องการแรงงานในทุกอุตสาหกรรม ครึ่งปีแรก 2568 PRTR มีพนักงาน Outsource ในพอร์ต 19,236 คน และตั้งเป้าสิ้นปีอยู่ที่ 20,500 คน บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าใหม่ในหลายกลุ่มธุรกิจ อาทิ กลุ่มพนักงานขาย (PC), กลุ่มค้าส่ง-ค้าปลีก (Wholesale/Retail), กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม (Beauty), และกลุ่มพลังงาน/น้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas / Energy) โดยในไตรมาส 3 จะมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติมในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (Consumer Electronics), กลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (Construction Products), และกลุ่มพลังงาน/น้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas / Energy) การขยายตัวดังกล่าวช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถบริหารจัดการกำลังคนได้อย่างยืดหยุ่น คุ้มค่า และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาบริการไปสู่สายอาชีพใหม่ๆ ที่กำลังเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรม ขณะที่ ธุรกิจบริการสรรหาพนักงาน (Recruitment) มีแนวโน้มทรงตัวตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แต่ในช่วงครึ่งปีแรกสามารถดำเนินการสรรหาได้แล้วกว่า 1,156 ตำแหน่ง และคาดว่าตลอดทั้งปีจะทำได้ถึง 2,500 ตำแหน่ง โดยมีจุดแข็งสำคัญจากฐานข้อมูลผู้สมัครในระบบมากกว่า 650,000 ราย ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีแผนขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ แนวโน้มการจ้างงานมีทิศทางที่ดีขึ้นจากความชัดเจนของนโยบายภาครัฐ และมาตรการภาษีสหรัฐฯ ที่เริ่มผ่อนคลาย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้องค์กรต่าง ๆ เดินหน้าเสริมกำลังคนได้มากขึ้น ด้านธุรกิจใหม่ ธุรกิจ HR Tech ภายใต้แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์บริหารบุคลากร PINNO กำลังฉายแววเป็นดาวรุ่งของกลุ่มธุรกิจใหม่ ด้วยฐานผู้ใช้งานที่พุ่งแตะกว่า 47,000 ราย เติบโตถึง 135% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากเป้าหมายที่วางไว้ 50,000 ราย สะท้อนถึงความต้องการโซลูชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความคล่องตัว และความแม่นยำในการบริหารบุคลากรอย่างแท้จริง ขณะที่ธุรกิจให้บริการฝึกอบรมแบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มและออฟไลน์ (Integrated Learning Services) ภายใต้ “The Blacksmith” หลังจากมีความล่าช้าในการเทรนบุคลากร จากปัจจัยภายนอก เช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เริ่มเห็นสัญญาณบวก จากงานในมือ (Backlog) มูลค่า 11 ล้านบาท จะเริ่มรับรู้เป็นรายได้เข้ามาในไตรมาส 3 และมีงานใหม่ๆ ที่ทยอยเข้ามาต่อเนื่อง สำหรับ การลงทุนเชิงกลยุทธ์ (M&A) ล่าสุดประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อหุ้น 100% ใน บริษัท บิซรีซอร์ส จำกัด (Biz Resource : BRS) ช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการ Outsource ในกลุ่มพนักงานขับรถและแม่บ้าน เสริมฐานลูกค้าใหม่ พร้อมโอกาสในการ Cross-sell และ Upsell ให้กับลูกค้าเดิม และการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพ เพื่อบริหารจัดการต้นทุนและขยายตลาดร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ในครึ่งปีแรก BRS มีพนักงาน Outsource ในพอร์ตแล้วกว่า 600 คน มีรายได้ 87 ล้านบาท และประเมินรายได้ทั้งปีเติบโตราว 20% หรืออยู่ที่ประมาณ 182 ล้านบาท และคาดปี 2569 เติบโต 30% อยู่ที่ 236 ล้านบาท เข้ามาสนับสนุนรายได้ PRTR ในครึ่งปีหลังและในปีหน้าเต็มปี PRTR ยังไม่หยุดเท่านี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น ในกลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัย ด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท มั่นใจว่าจะสามารถรองรับการขยายธุรกิจแบบ Inorganic Growth ได้อย่างต่อเนื่อง “PRTR มองว่า ธุรกิจ Outsource จะยังคงเป็นคำตอบสำคัญให้กับองค์กรในยุคที่ความยืดหยุ่นและความรวดเร็วคือหัวใจของการแข่งขัน ช่วยให้องค์กรลดต้นทุนและเพิ่ม Productivity ได้ทันทีท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังท้าทาย ขณะเดียวกัน การทรานส์ฟอร์ม HR สู่ Digitalization กำลังกลายเป็นเมกะเทรนด์ที่ทุกองค์กรต้องเผชิญ โดย PRTR ตั้งเป้าให้ธุรกิจ The Blacksmith และ PINNO ก้าวสู่จุดคุ้มทุน (Break Even) ได้ภายในสิ้นปีนี้ และมีบทบาทสำคัญในฐานะ “HR Tech Engine” ที่ขับเคลื่อนการให้บริการสมัยใหม่ขององค์กรได้อย่างครบวงจร” นางสาวริศรา กล่าว สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 PRTR มีรายได้รวม 3,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 112.2 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดในมือราว 434 ล้านบาท พร้อมรองรับโอกาสการเติบโตในอนาคต ทั้งนี้ งานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ประจำไตรมาส 2 ปี 2568 ได้รับเกียรติจาก นางสาวริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน และนางสาวนริตา อดุลย์แก้วผลึก ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ ร่วมนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้